ทำประกันชีวิต แบบไหนดี? เทคนิคเลือกให้คุ้มค่าและตอบโจทย์
การทำประกันชีวิต เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยคุ้มครองเราจากความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย และอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่ไม่คาดคิด แต่ประกันชีวิตที่ดีที่สุดอาจจะไม่ใช่ประกันที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด เนื่องจากต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอายุ รายได้ และความคุ้มครอง ดังนั้นการเลือกประกันที่คุ้มค่าและตอบโจทย์จึงมีรายละเอียดที่ควรพิจารณามากกว่าที่คิด แล้วถ้าอยากทําประกันชีวิต ให้ตัวเอง ควรทำประกันชีวิต แบบไหนดี ให้ตอบโจทย์ชีวิตของเรามากที่สุด? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ!
สารบัญบทความ
- ประกันชีวิตที่ใช่ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างไร?
- ประกันชีวิต มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะกับใคร?
- ประกันชีวิตแบบพื้นฐาน มีกี่ประเภท?
- ประกันชีวิตแบบพิเศษ มีกี่ประเภท?
- เลือกทำประกันชีวิตแบบไหนดี ให้คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ และคนที่คุณรัก
- ทำประกันชีวิต แบบไหนดี ให้เหมาะกับช่วงวัยของคุณ?
- ตรวจสอบค่าเบี้ยประกันชีวิตอย่างถี่ถ้วน
- พิจารณาความคุ้มครองและผลประโยชน์อย่างละเอียด
- ประเมินความเหมาะสมในการลงทุนร่วมกับประกันชีวิต
- MAKE by KBank ตัวช่วยจัดการเบี้ยประกัน สำหรับการทำประกันชีวิตทุกรูปแบบ
- ทำประกันชีวิต แบบไหนดีให้เหมาะสมกับคุณมากที่สุด
ประกันชีวิตที่ใช่ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างไร?
การทำประกันชีวิตมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเราไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต การมีประกันที่ตอบโจทย์ จึงเปรียบเสมือนหลักประกันอนาคต ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การเสียชีวิต การเจ็บป่วยหนัก หรือการสูญเสียรายได้จากการทำงาน อีกทั้งยังมีข้อดีต่าง ๆ เช่น
-
สร้างความอุ่นใจและความมั่นคง : การมีประกันชีวิตช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ทำประกันและครอบครัว หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ผู้ทำประกันเสียชีวิต ประกันสามารถช่วยให้ครอบครัวมีเงินทุนสำรอง ซึ่งคนในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ ลูก หรือคู่ชีวิต สามารถนำไปใช้ในการชำระหนี้สิน ค่าครองชีพ และการศึกษาต่อไปได้โดยไม่เดือดร้อน
-
สร้างหลักประกันอนาคต : ประกันชีวิตบางประเภทสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการออมเงินเพื่อเป้าหมายในอนาคต เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือเกษียณอายุ และสำหรับคนที่ต้องการลงทุน แล้วกำลังสงสัยว่าควรทําประกันชีวิต แบบไหนดี? บางแผนประกันก็มีส่วนประกอบของการลงทุน ทำให้เงินก้อนที่สะสมไว้เติบโตขึ้นด้วย**
-
ลดหย่อนภาษี : สำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีการลดหย่อนภาษี สามารถใช้ประกันลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน โดยประกันแต่ละประเภทก็จะมีเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีที่แตกต่างกัน เช่น ประกันชีวิตทั่วไป สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท ประกันแบบบำนาญลดหย่อนได้ 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
ประกันชีวิต มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะกับใคร?
อย่างที่ทราบว่าประกันชีวิตมีหลายรูปแบบ ซึ่งรูปแบบที่เหมาะสมกับคุณ ก็อาจจะเป็นคนละรูปแบบกับคนอื่น ๆ แล้วแบบนี้ควรทำประกันชีวิต แบบไหนดี? ก่อนอื่นมาทำความรู้จักประกันชีวิตแบบพื้นฐาน และแบบพิเศษกันก่อน
ประกันชีวิตแบบพื้นฐาน มีกี่ประเภท?
ประกันชีวิต แบบพื้นฐาน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)
สำหรับคนที่ต้องการออมเงิน สะสมทรัพย์ แต่ไม่รู้ว่าควรซื้อประกันชีวิตแบบไหนดี? ประกันชีวิตสะสมทรัพย์นับเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ เนื่องจากจุดเด่นของประกันชีวิตสะสมทรัพย์ นอกจากผู้ทำประกันจะได้รับความคุ้มครองชีวิตในกรณีที่เสียชีวิตแล้ว ยังสามารถนำเงินเบี้ยประกันที่ชำระไปสะสมเป็นเงินก้อนเพื่อใช้ในอนาคต เช่น ใช้เป็นเงินทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือเป็นเงินทุนสำหรับการศึกษาของบุตรหลาน จึงเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินระยะยาว และต้องการสร้างหลักประกันให้กับครอบครัว
- ผู้ที่ต้องการเงินก้อนเพื่อใช้ในอนาคต เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือเกษียณอายุ
- ผู้ที่มีรายได้สูงและต้องการลดหย่อนภาษี โดยลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
2. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เป็นเหมือน "เกราะป้องกัน" ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตในช่วงระยะเวลาที่กำหนด เช่น 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี ถ้าคุณเสียชีวิตระหว่างช่วงระยะเวลาดังกล่าว ผู้รับประโยชน์จะได้รับเงินก้อนตามจำนวนที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ทันที แต่ถ้าคุณมีชีวิตอยู่จนถึงสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนด ประกันจะสิ้นสุดลงและไม่มีการคืนเงินใด ๆ โดยประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลานี้เหมาะกับ
- ผู้ที่มีภาระหนี้สินสูง เช่น หนี้บ้าน หนี้รถยนต์ ประกันชีวิตจะช่วยชำระหนี้ให้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด
- ผู้ที่มีบุตรหลานเล็ก เพื่อเป็นหลักประกันให้กับบุตรหลานในอนาคต
- ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองระยะสั้น เช่น ช่วงที่ต้องทำงานหนัก มีรายได้ไม่แน่นอน
3. ประกันชีวิตตลอดชีพ (Whole Life)
หากประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ยังไม่ตอบโจทย์ของคุณ เนื่องจากไม่ได้คุ้มครองตลอดชีวิต แล้วควรทําประกันชีวิต อันไหนดีให้สามารถคุ้มครองตลอดชีวิตได้? ประกันชีวิตตลอดชีพ หรือ Whole Life Insurance เป็นประเภทของประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองตลอดอายุของผู้เอาประกันภัย โดยไม่จำกัดระยะเวลา เช่นเดียวกับชื่อของมันนั่นเอง นอกจากนี้ยังไม่ขึ้นกับอายุหรือสุขภาพของผู้ทำประกัน และสามารถสะสมมูลค่าเงินสดที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในกรณีฉุกเฉินอีกด้วย ประกันชีวิตประเภทนี้เหมาะกับ
- ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองตลอดชีวิต
- ผู้ที่ต้องการมอบทรัพย์สินให้กับทายาทในอนาคต
- ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี โดยสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
4. ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuities Insurance)
ประกันชีวิตแบบบำนาญ หรือ Annuities Insurance ออกแบบมาเพื่อให้ความมั่นคงทางการเงินในช่วงวัยเกษียณ โดยหลักการทำงานคือ คุณจะชำระเบี้ยประกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง หรืออาจจะเป็นก้อนเดียว แล้วเมื่อถึงอายุเกษียณ บริษัทประกันจะจ่ายเงินให้คุณเป็นรายเดือน รายปี หรือเป็นก้อนเดียว ตามที่คุณเลือกไว้ เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการวางแผนเกษียณ
- ผู้ที่ต้องการความมั่นคงทางการเงินในช่วงวัยเกษียณ
- ผู้ที่ต้องการสร้างรายได้สม่ำเสมอหลังเกษียณ
- ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี สามารถลดหย่อนได้ 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
ประกันชีวิตแบบพิเศษ มีกี่ประเภท?
สำหรับคนที่คิดว่าประกันชีวิตแบบพื้นฐาน ยังตอบโจทย์ชีวิตไม่ครอบคลุมมากพอ สามารถเลือกทำประกันชีวิตแบบพิเศษเพิ่มได้ แล้วประกันชีวิตแบบพิเศษ ควรทำแบบไหนดี?
1. ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Investment linked life insurance)
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Investment linked life insurance) คือประกันชีวิตที่ผสมผสานระหว่างความคุ้มครองชีวิตและการลงทุน โดยเงินเบี้ยประกันส่วนหนึ่งจะนำไปลงทุนในกองทุนรวมต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าประกันชีวิตแบบทั่วไป โดยเราสามารถเลือกกองทุนที่สอดคล้องกับความเสี่ยงที่รับได้ และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ในขณะที่ยังคงได้รับความคุ้มครองชีวิตในกรณีที่เสียชีวิต โดยประกันประเภทนี้เหมาะกับ
- ผู้ที่ต้องการทั้งความคุ้มครองชีวิต และการลงทุนในระยะยาว
- ผู้ที่มีความรู้เรื่องการลงทุน และต้องการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
2. ประกันชีวิตผู้สูงอายุ (Life Insurance for Seniors)
สำหรับคนที่สงสัยว่าทำประกันชีวิต ให้พ่อแม่ แบบไหนดี? ประกันชีวิตผู้สูงอายุ (Life Insurance for Seniors) เป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดีของคุณ โดยประกันประเภทนี้ คือประกันชีวิตที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ มักจะเน้นความคุ้มครองโรคร้ายแรง หรือความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล จุดเด่นคือ คุ้มครองโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และบางบริษัทอาจมีบริการช่วยเหลือผู้สูงอายุเพิ่มเติม เช่น การพยาบาลที่บ้าน โดยเหมาะสำหรับ
- ผู้สูงอายุที่ต้องการความคุ้มครองสุขภาพ
- ผู้สูงอายุที่ต้องการวางแผนการเงินเพื่อดูแลตัวเองในยามเจ็บป่วย
เลือกทำประกันชีวิตแบบไหนดี ให้คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ และคนที่คุณรัก
การเลือกทำประกันชีวิตเปรียบเสมือนการวางแผนอนาคตให้กับคนที่เรารัก การมีประกันชีวิตจะช่วยให้ครอบครัวของคุณมีเงินทุนสำรองไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน หรือเมื่อคุณไม่อยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินและทำให้คนที่คุณรักยังคงดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างราบรื่น แล้วเลือกประกันชีวิตแบบไหนดี ถึงจะเหมาะกับวัยของเรา? มีปัจจัยอะไรที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อประกันบ้าง? ตามมาดูกัน
ทำประกันชีวิต แบบไหนดี ให้เหมาะกับช่วงวัยของคุณ?
การเลือกทำประกันชีวิตให้เหมาะสมกับช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการ และสภาวะทางการเงินของแต่ละคน
- วัยเริ่มทำงาน : วัยทำงานที่ไม่รู้ว่าทำประกันชีวิต แบบไหนดี แนะนำเลือกประกันชีวิตที่มีค่าเบี้ยประกันต่ำและให้ความคุ้มครองสูง เพื่อประกันความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นคงในอนาคต เช่น ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
- วัยกลางคน : ควรพิจารณาประกันชีวิตที่มีการออมทรัพย์หรือการลงทุนร่วม เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างทรัพย์สินและเงินออมในอนาคต เช่น ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน หรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เพื่อสร้างหลักประกันให้กับครอบครัวในอนาคต
- วัยเกษียณ : ควรเน้นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองระยะยาว และสามารถเป็นหลักประกันในการดูแลสุขภาพและค่าใช้จ่ายยามเกษียณได้ เช่น ประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อสร้างรายได้หลังเกษียณ
ตรวจสอบค่าเบี้ยประกันชีวิตอย่างถี่ถ้วน
การตรวจสอบค่าเบี้ยประกันชีวิตเป็นขั้นตอนสำคัญในการเลือกทำประกัน เพราะค่าเบี้ยประกันมีผลต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาว ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าควรทําประกันชีวิตของบริษัทไหนดี ควรพิจารณาดังนี้
- เปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันจากหลายบริษัทประกันภัย โดยดูว่าประกันชีวิต จ่ายรายเดือนเท่าไหร่ เพื่อหาตัวเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด
- อ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขการจ่ายค่าเบี้ย รวมถึงข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เช่น การปรับค่าเบี้ยตามอายุหรือสุขภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าประกันชีวิตของอะไร ที่ดีต่อเรามากที่สุด
- คำนวณความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยในระยะยาว เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถชำระได้ตามกำหนด
พิจารณาความคุ้มครองและผลประโยชน์อย่างละเอียด
การพิจารณาความคุ้มครองและผลประโยชน์ที่ได้รับจากประกันชีวิตเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับการคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่า ควรตรวจสอบรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- เลือกประเภทความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการ เช่น คุ้มครองชีวิต สุขภาพ หรือการออมทรัพย์
- พิจารณาผลประโยชน์ที่ได้รับ เมื่อเกิดเหตุการณ์ เช่น การจ่ายเงินชดเชย หรือการคืนเงินตามเงื่อนไข
- ทำความเข้าใจในรายละเอียดสัญญาและเงื่อนไขการรับประโยชน์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต
ประเมินความเหมาะสมในการลงทุนร่วมกับประกันชีวิต
การลงทุนร่วมกับประกันชีวิตเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว โดยมีข้อควรพิจารณาดังนี้
- เลือกแผนการลงทุนที่ตรงกับเป้าหมายทางการเงิน และระยะเวลาที่ต้องการลงทุน
- พิจารณาความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนคุ้มค่าและเหมาะสม
- อาจรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพื่อให้ได้คำแนะนำที่ดีที่สุดในการตัดสินใจ
MAKE by KBank ตัวช่วยจัดการเบี้ยประกัน สำหรับการทำประกันชีวิตทุกรูปแบบ
การทำประกันชีวิตเป็นการวางแผนเพื่ออนาคตที่ชาญฉลาด แต่การจะเลือกแผนประกันที่เหมาะสมนั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนการเงินที่ดีควบคู่กันไป ถ้ารู้แล้วว่าทำประกันชีวิต แบบไหนดี แต่ยังมองหาตัวช่วยจัดการเงินเบี้ยประกันอยู่ แนะนำแอปพลิเคชัน MAKE by KBank ที่มีฟีเจอร์มากมายที่พร้อมช่วยให้การบริหารเงินของคุณง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น ได้แก่
Cloud Pocket
Cloud Pocket คือกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ช่วยให้คุณแบ่งเงินออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น หมวดออมเงินเพื่อทำประกันชีวิต การแบ่งเงินออกเป็นหมวดหมู่จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของการใช้จ่ายของคุณได้ชัดเจนขึ้น และสามารถวางแผนการออมเงินเพื่อทำประกันชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีใช้ Cloud Pocket เพื่อวางแผนทำประกันชีวิต
- กำหนดเป้าหมายเงินออมที่ต้องการสำหรับการทำประกันชีวิต
- สร้าง Cloud Pocket ขึ้นมาใหม่สำหรับการออมเงินเพื่อทำประกันชีวิตโดยเฉพาะ
- ตั้งค่าให้มีการโอนเงินจากบัญชีหลักเข้าสู่ Cloud Pocket นี้เป็นประจำทุกเดือน
- ตรวจสอบยอดเงินใน Cloud Pocket เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้
Schedule Transfer
Schedule Transfer เป็นฟีเจอร์ตั้งค่าการโอนเงินอัตโนมัติไปยัง Cloud Pocket ต่างๆ ได้ตามกำหนดเวลาที่คุณต้องการ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากในการวางแผนการเงินสำหรับทำประกันชีวิต เพราะคุณสามารถตั้งค่าการโอนเงินเข้าสู่ Cloud Pocket ที่ใช้เก็บเงินสำหรับชำระเบี้ยประกันชีวิตได้โดยอัตโนมัติ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดการชำระเบี้ยประกัน
วิธีใช้ Schedule Transfer เพื่อวางแผนทำประกันชีวิต
- ไปที่แถบ Banking เลือกโอนเงินล่วงหน้า แล้วกดสร้างรายการใหม่
- ตั้งค่าจำนวนเงินและวันที่จะทำการโอนเงิน ไปยัง Cloud Pocket ปลายทางสำหรับชำระเบี้ยประกันชีวิต
- ตรวจสอบสถานะการโอนเงินเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามปกติ
Expense Summary
Expense Summary คือฟีเจอร์ที่รวบรวมข้อมูลการใช้จ่ายของคุณในแต่ละเดือน เพื่อให้เห็นภาพรวมของการใช้จ่ายทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ฟีเจอร์นี้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่าย และหาทางลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อนำเงินส่วนนั้นมาออมสำหรับทำประกันชีวิต
วิธีใช้ Expense Summary เพื่อวางแผนทำประกันชีวิต
- ตรวจสอบรายละเอียดของค่าใช้จ่ายในแต่ละหมวดหมู่
- หาทางลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ลดการใช้จ่ายในเรื่องความบันเทิง หรือการกินอาหารนอกบ้าน
- เพิ่มสัดส่วนของเงินที่นำไปออมสำหรับทำประกันชีวิต
ทำประกันชีวิต แบบไหนดีให้เหมาะสมกับคุณมากที่สุด
ควรทำประกันชีวิตแบบไหนดีในปี 2567? แน่นอนว่าคำตอบของคำถามนี้ย่อมขึ้นอยู่กับช่วงวัย, รายได้, เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ของประกัน รวมไปถึงเงื่อนไขชีวิตของแต่ละคน ดังนั้นประกันที่ดีที่สุดก็คือประกันที่ใช่ และตอบโจทย์ของคุณมากที่สุด การเลือกทำประกันชีวิตที่คุ้มค่า ไม่เพียงแต่ให้ความคุ้มครองในยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคงและปลอดภัย หากพิจารณาและเลือกอย่างเหมาะสม
เมื่อรู้แล้วว่าควรทำประกันชีวิต แบบไหนดี สิ่งถัดไปที่สามารถช่วยให้คุณวางแผนการใช้เงิน ซึ่งรวมไปถึงการบริหารเบี้ยประกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ คงหนีไม่พ้นการมีแอปพลิเคชันที่ช่วยในการจัดการเงินได้อย่างสะดวกและง่ายดายอย่าง Make by KBank ที่ประกอบไปด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Cloud Pocket Schedule Transfer และ Expense Summary ที่เหมาะกับคนยุคใหม่ที่ต้องการบริหารจัดการเงินอย่างชาญฉลาด ส่วนใครที่กำลังมองหาประกันอื่นๆ เพิ่มเติม MAKE by KBank ก็มีทั้งประกันการเดินทาง, ประกันรถ, ประกันชีวิต, ประกันสุขภาพ, ประกันอุบัติเหตุ และประกันออมทรัพย์ให้คุณได้เลือกซื้อ ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อเพิ่มความมั่นคงในชีวิต ความมั่นคงในชีวิต
*โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย