ชวนลอง “ใช้เงินฟุ่มเฟือย แก้ไขพฤติกรรมยังไง มีคำตอบ!
ใคร ๆ ก็อยากมีเงินที่ทั้งเก็บและใช้จ่ายได้อย่างสบาย หรืออยากไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเพื่อพักผ่อนหย่อนใจได้ตามที่ต้องการ แต่หากคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีค่าใช้จ่ายยาวเป็นหางว่าว ใช้เงินฟุ่มเฟือย ขัดกับสภาพคล่องทางการเงินก็อาจทำให้เงินที่มีต้องใช้แบบเดือนชนเดือน ไม่พอใช้ เพราะฉะนั้นการวางแผนการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ความฝันของคุณเป็นจริงได้ ช่วยทำให้คุณมีเงินเก็บในอนาคต
สำหรับวิธีเก็บเงินอย่างง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ก็คือการทำบัญชีเป็นของตนเอง แต่บางคนอาจจะคิดว่าการทำบัญชีเป็นวิธีการที่ยุ่งยาก และไม่ถนัดเอาเสียเลย ไม่ต้องกังวลใจไป เรามีเคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยให้คุณทำบัญชีได้ง่ายขึ้น ด้วยการออมเงินผ่านแอปพลิเคชันที่ช่วยจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งสำคัญคือการขยันหมั่นเก็บออมให้ได้เสียก่อน แล้วจะต้องทำอย่างไร ถึงจะลดปัญหาการใช้เงินฟุ่มเฟือยได้ คอลัมน์นี้เราจะพาคุณไปหาคำตอบกัน
10 เทคนิคแก้ปัญหาการใช้เงินฟุ่มเฟือย เพิ่มโอกาสมีเงินเก็บ
บ่อยครั้งที่เรามักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล และการซื้อสินค้าก็เช่นเดียวกัน เมื่อพบของที่ถูกใจ แม้ว่าจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ แต่มันก็ดึงดูดให้คุณไม่อาจยับยั้งชั่งใจจนอดไม่ได้ที่จะคว้ามันมาครอง พฤติกรรมการใช้เงินฟุ่มเฟือยเหล่านี้ ทำให้คุณเกิดปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง หรือเงินจมจนไม่มีเงินเก็บ ต้องรีบแก้ไขปัญหาโดยด่วน เรามีวิธีแก้ปัญหาการใช้เงินฟุ่มเฟือยของคุณได้ หากคุณดำเนินการดังนี้
-
อดใจไว้ไม่ซื้อสินค้าตามใจ คุณควรลิสรายการสินค้าที่ต้องการจำเป็น ก่อนออกไปจับจ่ายใช้สอย และมุ่งเลือกซื้อสินค้าตามที่ระบุไว้เท่านั้น หากสนใจสินค้านอกรายการต้องอดใจไว้ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย
-
ตั้งเป้าหมายว่าจะวางแผนการเงินอย่างไร หากคุณต้องการซื้อสิ่งของชิ้นใหญ่ ก็ต้องประหยัดเงินไว้ อดออมเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
-
ทำบัญชีรายรับรายจ่ายง่ายๆ เพื่อกำหนดวิธีการออมเงินอย่างถูกต้อง แนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันออมเงินไว้ใช้งาน เพราะจะช่วยทำให้คุณเก็บเงินง่าย รู้รายจ่ายทุกเดือน
-
เน้นซื้อสินค้าที่มีคุณภาพมากกว่าสินค้าราคาถูก เพราะสินค้าราคาถูกใช้งานไม่นานก็พัง ทำให้ต้องเสียเงินซื้อใหม่อยู่ดี
-
อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยด้วยการซื้อสินค้าช่วงโปรโมชัน แม้ว่าโปรโมชันเหล่านั้นจะเย้ายวนใจมากแค่ไหนก็ตาม คุณต้องพึงระวังไว้เสมอว่านั่นจะทำให้คุณไม่อาจออมเงินจนไปสู้เป้าหมายของคุณได้
-
ลดพฤติกรรมเงินเดือนออกแล้วต้องรีบใช้ ยิ่งมีเงินในมือเยอะก็ยิ่งทำให้คุณจ่ายออกได้ง่าย กว่าจะรู้ตัวก็ไม่มีเงินเหลือแล้ว
-
เลิกมองหาสินค้าราคาถูก เพราะนอกจากจะทำให้คุณเสียเวลาแล้ว ยังทำให้ใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น
-
ลดพฤติกรรมการคิดวิเคราะห์มากจนเกินไป เช่น มีเครื่องดูดฝุ่นอยู่แล้ว แต่อยากได้ไม้กวาดระบบไฟฟ้า เป็นต้น
-
มีบัตรเครดิตพอใช้ ไม่ต้องเปิดหลายใบ ปัญหาหนี้สินบัตรเครดิตจากการใช้เงินฟุ่มเฟือย จะทำให้คุณไม่มีเงินเหลือเก็บ
-
ลดความเสี่ยงจากการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ลงทุนให้น้อยลง แล้วเพิ่มเงินเก็บออมให้มากขึ้น
1. รายรับที่ได้ต้องแบ่งเก็บไว้เสมอ ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย
อดใจไว้ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย หากคุณมีรายได้ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน โบนัส ค่าจ้าง หรือได้รับเงินจากสิ่งไหนก็ตามหากมันถูกตีความว่าคือ “รายรับ” สิ่งที่คุณต้องทำคือแบ่งเงินเก็บไว้เสมอ อาจกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ตายตัวไปเลยว่าทุกครั้งที่มีรายได้ต้องแบ่งเก็บ 10% จะทำให้ติดเป็นนิสัยที่ดี เงินเก็บค่อยๆ งอกเงยขึ้นแม้อาจช้าหน่อยแต่ก็หายห่วงว่าอย่างน้อยแม้มีเรื่องฉุกเฉินก็นำเงินตรงนี้มาแก้ไขปัญหาไม่ยากอย่างที่คิด
2. ประมาณตัวเอง ใช้เท่าที่มี ไม่ต้องตามคนอื่น
ปัญหาเงินไม่พอใช้ส่วนมากมักมาจากการไม่รู้จักประมาณตนเอง เห็นคนอื่นมีก็อยากได้ ทั้งที่เงินไม่ได้เยอะเหมือนเขา กลัวโดนดูถูก ไม่สามารถเข้าสังคมที่ควรเป็น สิ่งเหล่านี้กำจัดออกจากความคิดให้หมดแล้วจงรู้ไว้เสมอว่ามีเท่าไหร่ก็ใช้แค่นั้น ไม่ต้องตามคนอื่น ไม่ต้องอิจฉาหากเขามีเยอะกว่า กระเป๋าใบละหมื่นกับใบละร้อยก็มีความหมายเหมือนกันคือใส่ของ เมื่อคุณรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร มีเป้าหมายอย่างไร ก็จะช่วยให้คุณเดินทางไปตามที่วางแผนไว้ โดยไม่ต้องใช้เงินฟุ่มเฟือย
3. อยากใช้เยอะก็ต้องหาให้เยอะกว่า
แต่ถ้าหากคุณเป็นคนมีสังคม ต้องสู้คนอื่นให้จงได้ ยังไงฉันก็ไม่ยอม แบบนั้นก็คงต้องยึดข้อคิดที่ว่าหาเงินให้เยอะกว่าใช้ เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้เงินเกินตัว หรืออยากได้นั่นได้นี่เต็มไปหมดจนกู้หนี้ยืมสินชาวบ้าน เช่น นอกจากการเป็นพนักงานประจำ เลิกงานอาจต้องขายของตลาดนัด ขายของออนไลน์ควบคู่การทำงาน หรือบางคนจะทำงานฟรีแลนซ์เสริมก็ไม่มีปัญหา วิธีเก็บเงินสามารถยืดหยุ่นได้ แค่ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินกว่าที่จำเป็น
4. หยุดมองหาบัตรเครดิตให้จงได้
บัตรเครดิตเป็นวิธีที่สนับสนุนให้คุณใช้เงินฟุ่มเฟือยจนไม่รู้ตัวว่าได้ใช้เงินจนเกินโควตาไปแล้ว หลายคนนอกจากไม่เคยวางแผนการเงินแล้ว ยังรู้สึกว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้หยิบบัตรเครดิตจะรู้สึกสนุกกับการรูด มันไปกับการใช้จ่ายแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ท้ายที่สุดพอสิ้นเดือนก็ต้องนั่งปาดเหงื่อผ่อนจ่ายขั้นต่ำ กลายเป็นหนี้สิน มีดอกเบี้ยมหาศาล ดังนั้นจงหยุดมองหาบัตรเครดิตไม่ว่าจะต้องการทำใหม่เพื่อใช้หนี้ใบเดิม หรือหยุดหยิบใช้แบบไม่คิดเสียที
5. จำเป็นต้องซื้อหรือแค่อยากได้
กลวิธีในการเอาชนะในการใช้เงินฟุ่มเฟือยของตนเอง ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณต้องพิจารณาให้ออกว่าสิ่งที่กำลังจะซื้อนั้นแท้จริงแล้วมันจำเป็นหรือแค่อยากได้กันแน่ คำว่าจำเป็นหมายถึง ถ้าไม่มีใช้แล้วจะเกิดปัญหาต่อตนเอง ทว่าการอยากได้แม้จะยังไม่มีโอกาสซื้อแต่ก็ไม่ทำให้ชีวิตเดือดร้อน หากแยก 2 คำนี้ออก การใช้เงินฟุ่มเฟือยย่อมลดลง มีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายอย่างอื่นที่สำคัญกับชีวิตแน่นอน
6. หาวิธีทำรายรับ-รายจ่ายให้ง่ายที่สุด
หลายคนรู้สึกขี้เกียจที่ต้องบันทึกตารางรายรับรายจ่ายทุกวัน ดังนั้นคุณลองหาวิธีที่สะดวกและง่ายกับตนเองมากที่สุดดู เช่น การใช้แอปที่มีสรุปยอดค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเอาไว้ให้ชัดเจน การบันทึกลงโน้ตในมือถือซึ่งสามารถทำได้ทันทีเมื่อมีการจ่ายเงิน สะดวก รวดเร็ว แสดงผลการใช้เงินฟุ่มเฟือยของคุณได้เป็นอย่างดี นอกจากวิธีเหล่านี้ไม่ทำให้ขี้เกียจแล้ว และยังมองเห็นตัวเลขรายรับ-รายจ่ายยังเตือนสติไม่ให้ใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินตัวอีกด้วย
7. อนาคตมีเรื่องต้องใช้เงินแน่
นอกจากจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้เงินฟุ่มเฟือยแล้ว พึงระลึกเอาไว้เสมอว่าอนาคตคุณต้องมีเรื่องให้ใช้เงินเกิดขึ้นแน่ๆ อย่างน้อยที่สุดก็เอาไว้ในยามที่ตนเองเกษียณ ไม่มีงานทำแล้ว หยุดความคิดประเภทฉันหาเงินเก่ง เดี๋ยวก็หาใหม่ได้ เพราะไม่มีสิ่งใดแน่นอน คิดแบบนี้เอาไว้ช่วยลดปัญหาใช้เงินเกินตัวได้ดีมาก แต่ก็ต้องพยายามหักห้ามใจให้เคยชินและเลิกคิดอยากซื้อไปเอง
8. เปลี่ยนเงินใช้จ่ายไปลงทุนบ้าง
หากรู้ว่าตัวเองเป็นคนมีนิสัยใช้เงินฟุ่มเฟือย ต้องใช้เงิน ไม่อย่างนั้นมันคันไม้คันมือ ลองเปลี่ยนแนวคิดจากการซื้อของไปลงทุนที่สร้างโอกาสทำกำไรดูบ้างก็น่าสนใจทีเดียว จากนั้นคุณก็บันทึกรายรับ-รายจ่ายเอาไว้ว่าเป็นค่าใช้จ่าย เมื่อเงินมีน้อยลงก็หมายถึงการซื้อของไร้สาระลดตามไปด้วย แถมการลงทุนยังมีโอกาสสร้างผลกำไรกลับคืน กลายเป็นเงินได้เพิ่มเติมไปในตัว
9. หาอย่างอื่นทำแทนการใช้เงิน
หากเวลาว่างแล้วต้องไปเดินตามห้าง ต้องเข้าแอปช้อปปิ้งออนไลน์ ลองเปลี่ยนกิจกรรมใช้เงินฟุ่มเฟือย แล้วไปทำอย่างอื่นแทนเพื่อจะได้ไม่ต้องเจอปัญหาเงินไม่พอใช้กันดีกว่า เช่น ดูซีรี่ส์ อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ เก็บกวาดบ้าน หรือแม้แต่ไปนั่งคุยเล่นกับเพื่อนก็ยังดีกว่าใช้เงินแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ทั้งนี้พยายามเน้นกิจกรรมไม่ต้องใช้เงินด้วยนะ
10. สร้างเป้าหมายใหญ่ในการเป็นคนมีเงิน
ลองตั้งเป้าหมายให้กับตนเองว่าสักวันฉันจะต้องมีเงินแสน เงินล้าน จากนั้นก็เริ่มวางแผนการเงินเบื้องต้น เช่น แบ่งเงินเดือน แบ่งรายได้ หาวิธีเพิ่มรายได้เสริมให้กับตนเอง ไปจนถึงฝากเงินกับบัญชีดอกเบี้ยสูง ลงทุนความเสี่ยงต่ำเพื่อให้ได้ผลกำไร วันหนึ่งพอคุณเห็นเงินตัวเองเยอะจะเริ่มเสียดายและไม่อยากใช้ นี่แหละอีกข้อคิดที่ทำให้เก็บเงินได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยจนเกินไป เพื่อรักษามาตรฐานความรวยของคุณไว้ให้มั่นคง
เก็บเงินกับ “MAKE by KBank” ลดปัญหาใช้เงินฟุ่มเฟือย
สร้างนิสัยการออมเงินด้วยการลดใช้เงินฟุ่มเฟือยเป็นวิธีการที่จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บในอนาคต สำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีเก็บออมเงินอย่างได้ผล เราขอเสนอ MAKE by KBank แอปเก็บเงินที่ช่วยเปลี่ยนนิสัยใช้เงินเกินตัวให้เป็นคนมีเงินเก็บ วิธีเก็บเงินของคนรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง และมีประสิทธิภาพมากๆ แอปนี้มีดีอย่างไรไปดูกัน
1. Cloud Pocket
คุณสามารถสร้าง Cloud Pocket หรือกระเป๋าเงินอย่างเป็นสัดเป็นส่วน สามารถตั้งเป้าหมายเก็บเงินได้อย่างชัดเจน เช่น ท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ หรือกิจกรรมอื่นๆ ด้วยฟีเจอร์น่ารัก สไตล์มินิมอลให้คุณฝากและถอนเงินได้สะดวกสบาย แถมยังสามารถสร้างกลุ่มแชร์อัปเดตตัวเลขให้เห็นได้ตลอดเวลา
2. Expense Summary
วิธีแก้ปัญหาการใช้เงินฟุ่มเฟือยอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณมองเห็นสรุปรายจ่ายได้อย่างชัดเจน ฟีเจอร์นี้จะแสดงผลการใช้จ่ายในแต่ละเดือนของแต่ละกระเป๋าว่าใช้จ่ายอะไรไปบ้าง โดยแบ่งเป็น 6 หมวด ประกอบด้วย ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าบันเทิง, ค่าช้อปปิ้ง, ชำระบิล และอื่นๆ เห็นแล้วก็รู้เลยว่าเงินของคุณไปจมลงอยู่ที่ไหน
MAKE by KBank เป็นอีกหนึ่งวิธีจัดการบัญชีอย่างมีประสิทธิภาพผ่านระบบ Cloud ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการการเงินของตนเองได้อย่างเป็นสัดส่วน กำหนดเป้าหมายได้ตามความต้องการ พร้อมสรุปค่าใช้จ่ายให้เห็นว่าคุณใช้เงินอย่างมือเติบมากแค่ไหน นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินฟุ่มเฟือยได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมีดอกเบี้ยสูงกว่าปกติที่ 1.5% สำหรับฝาก 300,000 บาทแรก อีกด้วย ถือว่าเป็นวิธีการออมเงินในรูปแบบใหม่ที่เหมาะกับยุคสมัย ใช้งานง่าย ช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม