

เคยได้ยินคำว่า “No Buy Month” กันมั้ย? ใครที่เข้าไปไถโซเชียลช่วงนี้อาจจะสงสัยว่า No Buy Month คืออะไร ทำไมถึงเป็นเทรนด์ขึ้นมา
บอกได้เลยว่า No Buy Month เป็นวิธีช่วยเก็บเงินที่ทำได้ง่ายและเหมาะมากๆ สำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่วันเรียนถึงวัยทำงานที่ช้อปปิงบ่อยและไม่ค่อยได้เช็กการเงินตัวเอง ในบทความนี้จะอธิบายแนวทางและเคล็ดลับการทำ No Buy Month Challenge แบบทีละขั้นตอนเรียกได้ว่า ถ้าเริ่มทำได้แล้วสามารถทำไปยาวๆ จนติดเป็นนิสัยกันได้เลย ไม่มีล้มเลิกกลางทางแน่นอน
No Buy Month หรือ “เดือนแห่งการไม่ซื้อ” คือ ชาเลนจ์ที่กำลังมาแรงในโลก TikTok ที่ชวนให้ทุกคนงดซื้อหรือจ่ายให้สิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น กระเป๋าใหม่ เสื้อผ้าตามเทรนด์ หรือ กับข้าวมื้อแพงๆ เป็นเวลา 1 เดือน โดย No Buy Month ไม่ใช่การห้ามใช้จ่าย แต่เป็นวิธีที่จะช่วยให้เรามีสติในการใช้เงินมากขึ้น ทำให้เราได้ทบทวนก่อนจ่ายว่า สิ่งนี้จำเป็นแค่ไหน และลดการจ่ายฟุ่มเฟือยไปได้เยอะ
No Buy Month มีข้อดีในหลายๆ ด้าน และแน่นอนว่าด้านที่ดีที่สุด คือ ด้านการจัดการเงินของตัวเราเอง เพราะรู้มั้ยว่า เราสามารถประหยัดเงินได้ถึง 5–10% ของรายได้ในแต่ละเดือนจากการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก ไม่ว่าจะเป็น การสั่งอาหารเดลิเวอรี่ทุกวัน การช้อปออนไลน์ก่อนนอนจนเป็นนิสัย หรือการซื้อของแพงเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ซึ่งนอกจากจะมีเงินเก็บมากขึ้นแล้ว การทำ No Buy Month Challenge ยังช่วยปรับพฤติกรรมทางการเงินของเราให้ดีขึ้นด้วย
การทำ No Buy Month ไม่ใช่การทำ Challenge เพียงชั่วคราวตามกระแสเท่านั้น แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวินัยทางการเงินที่ดี ซึ่งข้อดีของการทำ No Buy Month ต่อตัวเราในระยะยาวมีหลายด้านเลย เช่น
การทำ No Buy Month คือ ตัวช่วยให้เราต้องวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือน โดยการจัดลำดับความสำคัญหรือความจำเป็นในการใช้จ่าย และลดค่าใช้จ่ายส่วนที่จำเป็นน้อยกว่าลง ส่งผลให้การเงินเป็นระบบมากขึ้น
ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนของการทำ No Buy Month คือ เป็นการประหยัดเงิน ซึ่งช่วยให้เรามีเงินเก็บรายเดือนมากขึ้น ถือเป็นวิธีที่เหมาะมากๆ สำหรับคนที่เจอกับภาวะสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจหรือใช้เงินเดือนชนเดือน ไม่มีเงินเก็บบ่อยๆ
การทำ No Buy Month Challenge ช่วยให้เราได้กล้บมาสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเอง และเริ่มวางแผนการใช้เงินในอนาคตได้ง่ายขึ้น หรือว่าเป็นการจัดระบบการเงินของตัวเองในแต่ละเดือนนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่า ช่วยลดความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินไปได้เยอะ
No Buy Month คือ วิธีลดการซื้อของฟุ่มเฟือยที่ได้ผลจริง อีกทั้งยังช่วยลดการซื้อสินค้าซ้ำ ซึ่งทำให้เรากลับมาตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งของเครื่องใช้ที่เรามีใช้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาลองจับคู่เสื้อผ้าในตู้ให้เกิดเป็นลุคใหม่ หรือการใช้งดซื้อลิปสติกแท่งใหม่มาใช้ ทั้งๆ ที่สีที่จะซื้อก็เป็นสีที่มีอยู่แล้ว
No Buy Month ไม่ได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายและสร้างวินัยทางการเงินอย่างเดียว แต่ในระยะยาวยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ ซึ่งช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกของเราอีกด้วย
ตั้งเป้าหมายของเดือนให้ชัดเจน การเริ่มต้นทำ No Buy Month คือ เริ่มจากตั้งเป้าหมายที่ต้องการทำให้ได้ในแต่ละเดือน จะเป็นเป้าหมายแบบจำนวนเงิน เช่น เดือนนี้ต้องการเก็บเงินให้ได้ 3000 บาท หรือ เป้าหมายแบบพฤติกรรม เช่น เดือนนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะไม่ซื้อเครื่องสำอางค์เพิ่มและจะงดซื้อเสื้อผ้าใหม่
ลิสต์รายการของที่ “ซื้อได้” และ “ซื้อไม่ได้” โดยการแบ่งความต้องการเป็น “want” หรือ “need” หากเป็นของที่เราอยากได้ในระดับ need มีความจำเป็นในการใช้ชีวิตก็สามารถซื้อได้ ไม่ว่าจะเป็น ของใช้ อาหาร ยา ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือ ค่าเดินทาง แต่ก็งดการซื้อของที่อยู่ในระดับความต้องการแบบ “want” อย่างเช่น ของสะสม ของตามกระแส หรือการไปเที่ยวที่ต้องใช้เงินเยอะ
ติดตามเป้าหมายหลังทำ Challenge ข้อนี้คือเคล็ดลับสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เป้าหมายของเราในการทำ No Buy Month Challenge ไม่ล้มเลิกกลางทาง การมีตัวช่วยอย่างแอป MAKE by KBank ติดมือถือไว้ ด้วยฟีเจอร์Cloud Pocket ที่จะช่วยแบ่งเงินในบัญชีธนาคารออกเป็นหลายกระเป๋า สามารถตั้งชื่อ ตั้งรูป และตั้งเป้าหมายในแต่ละ Cloud Pocket ได้ ช่วยจำกัดงบประมาณตามที่เราตั้งไว้ในการทำ No Buy Month Challenge ได้ ซึ่งวิธีการไม่ยากเลย เพียงแค่ทำตามขั้นต่อไปนี้
โดยเราสามารถดูสรุปรายรับรายจ่ายในภาพรวมใน Cloud Pocket ได้ ติดตามได้ง่ายๆ เลยว่า ทำ Challenge แล้วการเงินของเราเปลื่อนไปอย่างไรบ้าง
นอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องตัวเงินแล้ว ยังควรใส่ใจในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ไม่หักดิบในการงดจ่ายในทันทีเพราะอาจจะทำให้รู้สึกเครียดและล้มเลิกได้ อีกทั้งในการทำ No Buy Month Challenge ควรจะแจ้งให้คนรอบตัวทราบในเบื้องต้นด้วย เพื่อที่พวกเขาอาจจะช่วยสนับสนุนเราในเรื่องกำลังใจ ทำให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้น หรืออาจจะหากิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช้เงินมาก หรือไม่ใช้เงินเลย ทำแทนการช็อปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร การพักผ่อน การเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือการชมธรรมชาติใกล้ๆ บ้าน ก็จะช่วยได้มากเลย
การทำ No Buy Month คือ การทำ Challenge เพื่อจำกัดการใช้จ่ายเงินในส่วนที่ฟุ่มเฟือยในแต่ละเดือน ช่วยให้มีเงินเก็บมากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นการสร้างวินัยทางเงินในระยะยาว เพื่อให้การทำ No Buy Month มีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งตัวช่วยสำคัญ คือ แอป MAKE by KBank ที่มีฟีเจอร์ Cloud Pocket ช่วยในเรื่องการจำกัดงบประมาณการใช้จ่าย และตรวจสอบรายรับรายจ่ายได้อย่างครบถ้วนในแอปเดียว สามารถโหลดแอป MAKE by KBank ได้เลยที่ App Store และ PlayStore