เครียดเรื่องเงิน ปัญหานี้แก้ได้ไม่ยาก! - MAKE by KBank
สแกนเพื่อดาวน์โหลด
MAKE logo
MAKE logo

เครียดเรื่องเงิน ปัญหานี้แก้ได้ไม่ยาก!

stressed-about-money.jpg

หนี้สินนับเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตของใครหลายคน เพราะหาทางออกไม่เจอว่าจะปิดหนี้อย่างไรดี จากการที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว และรายการหนี้ที่มีดอกเบี้ยก็ไม่ใช่น้อยๆ อย่างหนี้บัตรกดเงินสด, หนี้บัตรเครดิต หรือแม้แต่หนี้บ้าน เจอปัญหานี้เข้าไปทำเอาเครียดเรื่องเงิน จนนอนไม่ได้ กินข้าวไม่ลง

แต่ทุกปัญหาล้วนมีทางออก ในบทความนี้เราจึงชวนทุกคนมารู้จักกับ 7 วิธีแก้ปัญหาการเงิน รับรองว่านำไปใช้แล้ว การจัดการหนี้สินไม่ยากอย่างที่คิด พร้อมแนะนำเทคนิคออมเงินที่จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บในระยะยาว สร้างความมั่งคั่งเพื่ออนาคต รู้แบบนี้แล้วมาหาคำตอบกันได้เลย!

1. ตรวจสอบรายการหนี้ยอดหลังทั้งหมด

หากเครียดเรื่องเงิน เพราะมีหนี้หลายก้อน อันดับแรกเราแนะนำให้คุณตรวจสอบรายการหนี้ยอดหลังทั้งหมดว่าปิดหนี้ก้อนเก่าครบแล้วหรือไม่ เพราะระหว่างชำระหนี้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรกดเงินสด, หนี้บัตรเครดิต หลายคนได้ขอสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ เพื่อโปะหนี้ก้อนเก่า และแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง ทำให้หลงลืมไปว่ายังปิดหนี้ไม่ครบ

ถ้าจำไม่ได้ว่าเคยขอสินเชื่ออะไรไปแล้วบ้าง? ให้คุณลองตรวจสอบรายการหนี้ยอดหลังด้วยตนเองผ่านบริการของทางเครดิตบูโรใกล้บ้าน หรือผ่านทางแอปพลิเคชันมือถือ เพื่อวางแผนการบริหารหนี้ได้อย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น

2. จัดลำดับความสำคัญของหนี้สิน

หลังจากตรวจสอบเครดิตบูโรเสร็จแล้ว คุณจะเห็นประวัติการชำระหนี้ย้อนหลัง และรายการหนี้สินที่ค้างชำระอยู่ จากนั้นให้คุณนำหนี้ทั้งหมดมาจัดลำดับความสำคัญ โดยพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อปี หนี้ก้อนไหนดอกเบี้ยสูง ต้องจ่ายก่อนเป็นอันดับแรก เช่น นาย A เป็นหนี้บ้าน, หนี้บัตรกดเงินสด, หนี้บัตรเครดิต และหนี้นอกระบบ จากตัวอย่างให้คุณจัดลำดับความสำคัญดังนี้

1. สินเชื่อนอกระบบ ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และเจรจาประนอมหนี้ได้ยาก หากปล่อยไว้นานจะยิ่งทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น จนหาทางชำระเงินคืนไม่ได้

2. บัตรกดเงินสด คิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึงร้อยละ 25% ต่อปี และคิดดอกเบี้ยตามจำนวนวันนับแต่มีการเบิกถอนเงินสด ยิ่งปล่อยไว้นาน ไม่ยอมจ่ายชำระ ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงพอๆ กับจำนวนเงินสดที่เบิกออกมาจากตู้ ATM เลยทีเดียว

3. บัตรเครดิต คิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 16% ต่อปี เป็นหนี้ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับสาม เพราะอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าบัตรกดเงินสด และมีระยะเวลาปลอดภาระหนี้สินอยู่ ทำให้จ่ายดอกเบี้ยโดยรวมน้อยกว่านั่นเอง

4. หนี้บ้าน เมื่อเปรียบเทียบกับหนี้ 3 ประเภทตามที่ได้ยกตัวอย่างไป หนี้บ้านคิดอัตราดอกเบี้ยน้อยที่สุด จึงควรจัดลำดับไว้อย่างสุดท้าย และต่อให้ขาดการผ่อนชำระหนี้บ้านขึ้นมาจริงๆ ยังใช้เวลาอีกนานหลายเดือนกว่าจะเข้าสู่ขั้นตอนการยึดบ้าน ทำให้ระหว่างนี้คุณยังสามารถหาเงินมาผ่อนชำระคืน เพื่อไม่ให้บ้านถูกยึดได้อยู่

หากคุณจัดลำดับความสำคัญของหนี้สินออกมาแล้ว จะหาทางแก้ไขปัญหาการเงินได้ง่ายขึ้น เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ไม่ต้องเครียดเรื่องเงินอีกต่อไป

3. หาทางปิดหนี้สิน

เมื่อจัดลำดับความสำคัญของหนี้สินเสร็จสิ้น สเต็ปแก้ปัญหาเครียดเรื่องเงินต่อไป คือ ให้คุณหาทางปิดหนี้ให้เรียบร้อย ซึ่งทำได้ 2 วิธี คือ 1.ขอสินเชื่อรวมหนี้ และ 2.ขอเจรจาประนอมหนี้

1. การขอสินเชื่อรวมหนี้

สินเชื่อรวมหนี้ เป็นการรวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียว ทำให้บริหารจัดการหนี้ง่ายขึ้น ไม่เสี่ยงต่อการลืมชำระหนี้ และยังได้ข้อเสนอที่ทำให้จ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำลงอีกด้วย

2. ขอเจรจาประนอมหนี้

สิ่งที่ต้องทำเมื่อเป็นหนี้ คือ ไม่ควรหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้ เพราะเวลาสถาบันการเงินโทรมาถามเราแล้ว จะคิดค่าทวงถามเข้าไปด้วย และเมื่อรวมค่าทวงถามกับหนี้ที่ค้างชำระเข้าไป กลายเป็นว่าต้องจ่ายหนี้เพิ่มขึ้น ยิ่งหาทางจ่ายเงินคืนไม่ได้ ที่สำคัญการเจรจาประนอมหนี้ยังมีโอกาสยืดระยะเวลาผ่อนชำระออกไป จนหาเงินมาจ่ายคืนได้ทันตามที่กำหนด ไม่ต้องเสี่ยงถูกฟ้องร้องอีกด้วย

4. อย่าเครียดจนเกินไป หันมาดูแลสุขภาพใจของตนเองด้วย

ระหว่างหาทางปลดหนี้ หลายคนเกิดความเครียดเรื่องเงินไม่น้อย ไหนจะปัญหาเงินไม่พอใช้จ่ายในแต่ละวัน, เรื่องงาน, ลามไปถึงเรื่องความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ฯลฯ แถมต้องรับสายจากเจ้าหนี้ที่ติดตามทวงถามหนี้ ปัญหาที่ถาโถมเข้ามาย่อมทำให้เกิดความรู้สึกท้อแท้ว่าจะปิดหนี้สินได้ตามที่ต้องการหรือไม่

แต่การเครียดเรื่องเงินมากเกินไป จะก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ ตามมาไม่ว่าจะเป็นโรคความดัน, โรคทางเดินอาหาร, โรคหัวใจ ฯลฯ หากเกิดโรคร้ายแรงขึ้น จนต้องหยุดงาน ก็ยิ่งไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ ดังนั้นจึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ และทำงานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ คลายเครียด เช่น ดูหนังตลก หรือพูดคุยปรับทุกข์กับเพื่อนสนิท เพื่อไม่ให้ปัญหาหนี้สินกระทบกับสุขภาพจิตใจจนเกินไป

5. ปรับทัศนคติด้านการเงินใหม่

ต่อให้คุณปิดหนี้ก้อนเก่าได้ทั้งหมด แต่ปัญหาหนี้สินก็อาจกลับมาซ้ำ เหมือนหนังเรื่องเดิมที่กลับมาฉายใหม่ จนต้องเครียดเรื่องเงินอีกรอบ เพราะไม่ยอมปรับทัศนคติทางการเงิน จากความคิดที่ว่าของมันต้องมี

เราเข้าใจดีว่าการปรับทัศนคติทางการเงินไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทุกคนทำได้ด้วยการตั้งเป้าหมายในชีวิต เช่น เก็บเงินซื้อบ้าน ซึ่งจะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจ ตั้งใจออมเงินมากยิ่งขึ้น ถ้ารู้สึกว่าเก็บเงินซื้อบ้านเป็นเรื่องยากเกินไป ทำให้เครียดยิ่งกว่าเดิม ก็อาจลองต้องเป้าหมายง่ายๆ ที่เป็นไปได้ เช่น การเก็บเงินซื้อของด้วยเงินสดแทนการผ่อนชำระ เป็นต้น

6. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

นอกจากปรับทัศนคติด้านการเงินแล้ว วิธีแก้ปัญหาเครียดเรื่องเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลในระยะยาว ควรปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันควบคู่กันไปด้วย เช่น ลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีราคาแพง หรือลดการเข้าร้านชาบูปิ้งย่าง เพราะจะช่วยให้คุณมีเงินเก็บในแต่ละเดือนได้มากยิ่งขึ้น

แต่ถ้ารู้สึกว่าการปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายเป็นเรื่องยาก อาจลองใช้ตัวช่วยการเงินต่างๆ เพื่อควบคุมรายจ่ายให้ลดลงได้อย่างเช่น การทำบัญชีรายรับรายจ่าย ซึ่งเราแนะนำให้คุณพกพาสมุดเล่มเล็กติดตัวไปด้วยเป็นประจำ เวลาใช้จ่ายเสร็จแล้วก็บันทึกลงในสมุดทันที วิธีนี้จะทำให้คุณเห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ชัดเจน และหาทางวางแผนปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ดีกว่าเดิม

7.หาช่องทางเพิ่มรายได้

หากลองปรับพฤติกรรม รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นแล้วยังเครียดเรื่องเงิน จากการที่รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ก็อาจมองหารายได้เสริมตามช่องทางต่างๆ เช่น ขับรถส่งอาหาร, รับสอนพิเศษ หรือลองเปลี่ยนงานใหม่ที่ให้ผลตอบแทนมากขึ้น

แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรทำงานเสริมจนหักโหมมากเกินไป เพราะจะนำมาสู่ความเครียด และโรคอื่นๆ ตามมา จนต้องนำเงินเก็บมารักษาตนเอง ซึ่งยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ทางการเงินให้แย่ลงกว่าเดิม จึงควรบริหารเวลาการทำงานเสริมอย่างเหมาะสม โดยไม่รบกวนเวลาทำงานของงานประจำ มิเช่นนั้นแล้วอาจส่งผลต่อความก้าวหน้าในสายอาชีพ แถมเสี่ยงถูกไล่ออกจากงานกลางคันอีกด้วย

ปัญหาเครียดเรื่องเงิน จะหมดไปด้วยตัวช่วยบริหารเงิน MAKE by KBank

why-stressed-about-money.jpg

ถ้าลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายแล้วยังรู้สึกว่าไม่สามารถแก้ปัญหาเครียดเรื่องเงินได้ตามที่ต้องการ เพราะมักเผลอลงรายการใช้จ่ายไม่ครบถ้วน ก็ลองใช้แอปเก็บเงินอย่าง “MAKE by KBank” ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใช้งานง่าย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่าง Cloud Pocket และ Expense Summary

1. Cloud Pocket

หากกำลังมองหาวิธีเก็บเงิน ที่มนุษย์เงินเดือน สามารถออมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเงินเก็บแน่นอนทุกเดือน ไม่ต้องเครียดเรื่องเงินอีกต่อไป ไม่ควรพลาดกับการใช้งานฟีเจอร์ Cloud Pocket ซึ่งทำให้คุณสามารถออกแบบกระเป๋าเงินด้วยตนเองง่ายมาก ผ่านการตั้งชื่อกระเป๋าเงินต่างๆ เช่น กระเป๋าออมเงิน กระเป๋าจัดการหนี้สิน เป็นต้น

เมื่อถึงวันเงินเดือนออก เพียงแค่โอนเงินจากบัญชีรับเงินเดือน แล้วโอนเข้ากระเป๋าเงิน Cloud Pocket ตามชื่อต่างๆ ที่คุณได้ตั้งเอาไว้ ก็ทำให้บริหารจัดการเงินสะดวกกว่าเดิม หมดปัญหาลืมจ่ายบิลรายเดือนไปได้เลย

และ Cloud Pocket ยังได้เพิ่มฟีเจอร์เก็บเงินสนุกสุดน่ารัก เพียงแค่ตั้งชื่อ Cloud Pocket ว่า “แผ่นออมเงิน” ก็จะพบกับน้องเมคสีเหลือง ผู้ช่วยออมเงินรายวันสุดสร้างสรรค์ ที่ทำหน้าที่วางแผนเก็บเงินรายวันได้ง่ายๆ ว่าแต่ละวันต้องออมเงินเท่าไหร่ พร้อมออกแบบว่าต้องใช้ระยะเวลาเก็บเงินนานแค่ไหน ถึงจะไปสู่เป้าหมายเงินออมที่คุณต้องการ

2. Edit Memo

หากลืมระบุข้อมูลการใช้จ่ายย้อนหลัง ก็สามารถลงรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านฟีเจอร์ Edit Memo ทำให้คุณรู้ข้อมูลทุกการโอนจ่ายว่าใช้เงินไปธุรกรรมในหมวดหมู่อะไรเป็นพิเศษ ทำให้วางแผนการเงินได้อย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น

3. Expense Summary

ฟีเจอร์คู่หูของ Cloud Pocket อย่าง Expense Summary ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติสรุปข้อมูลการใช้จ่ายรายเดือนทันทีเมื่อมีการใช้จ่ายเกิดขึ้น ทำให้ทราบได้ว่าแต่ละเดือนใช้เงินไปกับรายการอะไรบ้าง หากพบว่ารายการใช้จ่ายใดสูงเกินปกติ จนทำให้คุณเครียดเรื่องเงิน ก็ค่อยหาทางลดรายการใช้จ่ายนั้นลงภายหลัง

ปัญหาเครียดเรื่องเงิน แก้ง่ายกว่าที่คุณคิด ขอเพียงตั้งใจ และสร้างวินัยการเงินที่ดี

หลังจากทราบไปแล้วว่า 7 วิธีการแก้ปัญหาเครียดเรื่องเงินมีอะไรบ้าง จะเห็นได้ว่าขอเพียงเริ่มต้นสร้างวินัยทางการเงินที่ดีตั้งแต่วันนี้ ด้วยการหมั่นออมเงินสม่ำเสมอ ลดการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็น พร้อมปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย ปัญหาการเงินใหญ่ขนาดไหน ก็แก้ไขได้แน่นอน

ถ้าสนใจตัวช่วยออมเงินง่ายๆ ไม่ควรพลาดกับแอปพลิเคชัน “MAKE by KBank” ที่นอกจากมาพร้อมกับฟีเจอร์ใช้งานง่ายอย่าง Cloud Pocket และ Expense Summary แล้ว ภายในแอปพลิเคชันยังมี Mission สนุกๆ ให้สมาชิกลุ้นรางวัลอีกมากมาย แถมแค่ฝากเงินเข้าไปยังได้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.5% ต่อปีอีกด้วย ลูกเล่นเยอะขนาดนี้ ก็อย่ารอช้าดาวน์โหลด MAKE by KBank ได้เลยตั้งแต่วันนี้!

กลับไปหน้าแรก