

การเปลี่ยนสายงานเป็นสิ่งที่หลายคนคิดในใจ โดยเฉพาะเมื่อทำงานมาสักพักแล้วเริ่มรู้สึกว่างานเดิมไม่ตอบโจทย์ความต้องการอีกแล้ว แต่หลายคนอาจกังวลเรื่อง เปลี่ยนสายงาน แต่ ไม่มีประสบการณ์ จะทำได้มั้ย?
ต้องบอกเลยว่า การจะย้ายสายงานในยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่ก่อนอื่น มาดู 7 เคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้การย้ายสายงานของคุณราบรื่นและประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การประเมินตัวเองจนถึงวิธีวางแผนการเงินให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
เหตุผลที่คนเราอยากเปลี่ยนสายงานมีหลายอย่าง และส่วนใหญ่มาจากความรู้สึกที่ว่างานปัจจุบันไม่ตอบสนองความต้องการของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน เวลา หรือความสุขในการทำงาน ทำให้เกิดความคิด "อยากเปลี่ยนสายงาน" ขึ้นมา
หลายคนเริ่มรู้สึกอยากเปลี่ยนสายงานเพราะงานปัจจุบันไม่ตอบโจทย์ความต้องการหรือเป้าหมายชีวิต เช่น
สรุปคือ เมื่อสิ่งที่งานให้ไม่ตรงกับความต้องการ คนส่วนใหญ่เริ่มมองหาทางเลือกใหม่เพื่อให้ชีวิตการทำงานมีความหมายและสนุกขึ้น
อีกหนึ่งแรงกระตุ้นสำคัญคือ การสังเกตคนรอบตัว เห็นเพื่อนหรือคนรู้จักที่เปลี่ยนสายงานและดูแฮปปี้กว่าเดิม ทำให้เห็นความเป็นไปได้ หรือเพื่อนบางคนมีรายได้ดีขึ้น หรือมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล เหตุผลเหล่านี้สร้างแรงบันดาลใจและทำให้เกิดคำถามกับตัวเองว่า “ทำไมเราจะทำไม่ได้?” ดังนั้นแรงบันดาลใจจากคนรอบข้างจึงมีส่วนทำให้เริ่มคิดจริงจังเรื่องการเปลี่ยนสายงาน
ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้มีอาชีพใหม่เกิดขึ้นมากมาย เช่น Digital Marketing, UX/UI Design, Data Analyst ทำให้เห็นโอกาสและอยากจะเปลี่ยนสายงาน เพราะสายงานใหม่หลายสายมีอัตราเติบโตที่ดี และค่าตอบแทนที่น่าสนใจ
ยกตัวอย่างเช่น คนวัย 28–35 ปี เริ่มมองหาความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต เช่น เวลาทำงานที่บาลานซ์กับครอบครัว คนรัก หรือเวลาส่วนตัวมากขึ้น บางคนอาจมองหาสายงานรีโมทหรือ Hybrid ที่ให้ความยืดหยุ่นมากกว่าสายงานเดิม
หลายคนเริ่มมองเห็นเพดานรายได้และความก้าวหน้าของสายงานเดิม การเปลี่ยนสายช่วยเปิดโอกาสใหม่และค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม สายงานใหม่บางสายมีโอกาสเติบโตเร็วกว่า หรือมีสวัสดิการและความมั่นคงมากขึ้น
เมื่อทำงานไปสักพัก เราจะรู้ว่าอะไรคือจุดแข็ง–จุดอ่อนของตัวเอง และรู้ความสนใจหรือความต้องการของตัวเอง การเปลี่ยนสายงานเปิดโอกาสให้ได้ใช้ทักษะใหม่ หรือสิ่งที่สนใจมานาน
การเปลี่ยนสายงาน ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในสายงานใหม่มาก่อนก็จริง แต่ต้องเตรียมตัวอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น
ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนสายงาน ต้องถามตัวเองให้ชัดเจน เพื่อรู้แรงจูงใจที่แท้จริง เช่น
การตอบคำถามเหล่านี้ช่วยให้คุณแยกได้ว่าควรเปลี่ยนสายงานจริง ๆ หรือแค่ปรับงานปัจจุบัน
เมื่อรู้ว่าอยากเปลี่ยนไปทางไหนแล้ว ขั้นต่อไปคือศึกษาข้อมูลสายงานใหม่ให้ละเอียด ดูเนื้องานและ Requirement เพื่อช่วยให้เห็นภาพชัดเจน และลดความเสี่ยงเลือกผิดสายงาน เช่น
วิเคราะห์ตัวเอง เช่น ใช้เทคนิค SWOT (จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค) ทำ Gap Analysis ระหว่างตัวเราตอนนี้กับสายงานที่เราอยากไป มีช่องว่างไหนที่ต้องเติมบ้าง อาจทำเป็นตารางคู่กันเพื่อเห็นข้อแตกต่างได้ง่ายและชัด เช่น ทักษะที่มี VSทักษะที่ต้องการ
แน่อนว่าการเปลี่ยนสายงานมักมีความเสี่ยงทางการเงิน ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ถ้าต้องเรียนเพิ่ม หรือหยุดงานชั่วคราว จะรับมืออย่างไร มีเงินสำรองส่วนนี้หรือไม่ , ถ้าสมัครงานแล้วไม่ได้งานสักที จะทำอย่างไร มีแผน B หรือไม่, หากต้องลงคอร์สเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม จะมีเงินพอในส่วนนี้หรือไม่
การมีทักษะที่ตรงกับสายงานใหม่เป็นหัวใจสำคัญ แม้จะไม่มีประสบการณ์ตรง แต่การสร้าง Portfolio และฝึกทักษะจริง รวมถึงการมีใบรับรองทักษะจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ
เรียนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Coursera, Udemy, Skill Lane
เลือกคอร์สที่ตรงกับสายงานใหม่ เช่น Digital Marketing, Data Analytics หรือ Graphic Design คอร์สออนไลน์ช่วยให้คุณเรียนได้ตามเวลาที่สะดวก และเก็บ Certificate ประกอบเรซูเม่
**ทำโปรเจ็กต์ส่วนตัวเพื่อฝึกฝน
**เช่น สร้างเว็บไซต์ของตัวเอง ทำกราฟิก หรือทดลองวิเคราะห์ข้อมูล ทำเสร็จแล้วเก็บลง portfolio เพื่อแสดงให้ผู้ว่าจ้างเห็นความสามารถ
ทำโปรเจ็กต์ฟรีให้เพื่อนหรือองค์กรเล็ก ๆ
นอกจากได้ประสบการณ์จริงแล้ว ยังสามารถสร้าง Connection และตัวอย่างผลงานที่จับต้องได้
โปรไฟล์ที่ชัดเจนและตรงกับสายงานใหม่ จะช่วยให้คุณดูเป็นมืออาชีพแม้ไม่มีประสบการณ์
ติดต่อกับคนในสายงานใหม่ ขอคำแนะนำหรือถามเกี่ยวกับโอกาสการทำงาน เข้าร่วม Networking Event หรือ Workshop เพื่อเรียนรู้แนวทางและสร้างความสัมพันธ์ และติดตามผู้เชี่ยวชาญในสายงานนั้น และ สร้าง Engagement กับคอนเทนต์ เช่น คอมเมนต์ แชร์ หรือถามคำถาม เพื่อให้เห็นว่าคุณสนใจและติดตามเทรนด์
การเปลี่ยนสายงานอาจหมายถึงช่วงรายได้ไม่แน่นอน ควรวางแผนการเงินให้ดี ตั้งงบสำหรับเรียนเพิ่มเติมหรือค่าใช้จ่ายส่วนตัวระหว่างเตรียมตัว
การเปลี่ยนสายงานเป็นเรื่องใหญ่ทั้งด้านอารมณ์และทัศนคติ การมี Mindset ที่ถูกต้องช่วยให้คุณผ่านความท้าทายได้ เปลี่ยน ความกลัวให้เป็นโอกาส ในการเรียนรู้และเติบโต เชื่อมั่นในตัวเองและความสามารถในการปรับตัว เตรียมใจรับมือกับ ความท้าทายและการปฏิเสธ อาจไม่สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก แต่ทุกประสบการณ์ช่วยให้คุณใกล้เป้าหมายมากขึ้น
การวางแผนการเงินที่ดีจะช่วยให้การเปลี่ยนสายงานเป็นไปอย่างราบรื่น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง ทำให้มีสมาธิไปกับการเรียนรู้และการหางานใหม่ได้เต็มที่
ลองประเมินว่าในช่วงเปลี่ยนงานจะมีรายได้หรือรายจ่ายอะไรเพิ่มขึ้นหรือลดลง และตั้งงบประมาณเผื่อสำหรับการเรียนรู้ เช่น ค่าคอร์สออนไลน์ หนังสือ เครื่องมือที่จำเป็น รวมถึงคำนวณค่าใช้จ่ายระหว่างช่วงหางานใหม่ ทั้งค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายในการหางาน
วางเป้าหมายเงินสำรองล่วงหน้า เช่น ค่าใช้จ่าย 3–6 เดือน เพื่อรองรับช่วงที่ยังไม่มีรายได้แน่นอน แยกเงินสำรองไว้ในบัญชีเฉพาะ เพื่อป้องกันการนำไปใช้โดยไม่ตั้งใจ
หรือใช้ตัวช่วยเพื่อการจัดการเงิน แบ่งเงินตามแต่ละเป้าหมาย อย่าง MAKE by KBank ที่มีฟีเจอร์ Cloud Pocket ช่วยแยกเงินได้หลายกระเป๋า เช่น สร้าง Cloud Pocket เพื่อเก็บเงินค่าคอร์สเรียนพัฒนาสกิล หรือเพื่อเก็บเงินไว้ยามฉุกเฉิน โดยสามารถสร้างได้ไม่จำกัดจำนวน และหากต้องการย้ายเงิน หรือเก็บเงินได้ถึงเป้าหมายแล้วก็ลบ Cloud Pocket ทิ้งได้สบาย ๆ
การเปลี่ยนสายงานเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่ต้องเตรียมตัวอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือการเตรียมตัวทั้งด้านทักษะ ใจ และการเงิน เพื่อให้การย้ายสายงานสำเร็จตามที่ตั้งใจ
การเข้าใจและรู้ความต้องการของตัวเอง เป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกสายงานที่ใช่ ต้องถามตัวเองให้ตรงไปตรงมาว่าเปลี่ยนสายงานเพื่อหลีกหนีปัญหา หรือเพื่อมุ่งหาสิ่งที่ดีกว่า การประเมินตัวเองอย่างจริงจังจะช่วยให้เลือกสายงานที่เหมาะสมและตอบโจทย์ได้จริง
ทักษะและประสบการณ์เดิมสามารถดึงมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ แม้จะเปลี่ยนสายงาน soft skills อย่างการทำงานเป็นทีม การแก้ไขปัญหา หรือการสื่อสาร ล้วนเป็นทักษะที่โอนย้ายได้ (transferable skills) ที่มีค่าในทุกสายงาน
การวางแผนการเงินที่มีระบบจะช่วยลดความเครียดในระหว่างช่วงเปลี่ยนงานได้ เพราะอย่าลืมว่า การเปลี่ยนงานหรือสายงานใหม่มักมาพร้อมความไม่แน่นอน ทั้งเรื่องรายได้ สวัสดิการ หรือค่าใช้จ่ายในการปรับตัว
ลองเริ่มจากการสำรวจรายรับรายจ่ายปัจจุบัน และประเมินว่าต้องเตรียมเงินก้อนเท่าไหร่ก่อนลาออกหรือลองงานใหม่ โดยสามารถตัวช่วยดี ๆ อย่างแอป MAKE by KBank เพื่อแบ่งเงินและตั้งเป้าหมายการออมได้
สรุปแล้ว การเปลี่ยนสายงานไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการเตรียมตัวที่ดี การวางแผนที่รอบคอบ และเครื่องมือช่วยจัดการเงินที่เหมาะสม จะทำให้การเปลี่ยนสายงานของคุณเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ