พ่อแม่ยุคใหม่ต้องรู้ ออมเงินให้ลูก ได้ดอกเบี้ยสูงธนาคารไหนดีที่สุด

ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่กำลังมองหาวิธีเก็บเงิน ด้วยการเลือกธนาคารเพื่อเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูก หรือต้องการออมเงินให้ลูกสำหรับอนาคตแล้วละก็ คุณอาจจะมีความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่น้อยนิดในปัจจุบัน จนไม่แน่ใจว่าควรเปิดบัญชีกับธนาคารอะไรถึงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และเหมาะกับครอบครัวมากที่สุดในเวลานี้

อย่าพลาดที่จะอ่านบทความนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกของคุณ ด้วยดอกเบี้ยที่ดีที่สุด

ออมเงิน คืออะไร

การออมเงิน คือ การสะสมเงิน หรือเก็บเงินด้วยวิธีต่างๆ เพื่อไว้ใช้ในอนาคต ตอบโจทย์ความต้องการ หรือเป้าหมายบางอย่าง เช่นเดียวกับการออมเงินให้ลูก ซึ่งเป็นขั้นตอนการวางแผนเก็บเงินเพื่อเตรียมความพร้อมในอนาคตที่มั่นคงให้กับลูกนั่นเอง

เพราะถ้าหากว่าพ่อแม่มีการออมเงินให้ลูกมากพอ ไม่ว่าจะเป็นเงินแสน ไปจนถึงการมีเงินล้าน ต่อไปลูกก็จะมีโอกาสในด้านต่างๆ มากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา สภาพแวดล้อม ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการมีฐานะ และชีวิตที่มั่นคง

ออมเงินให้ลูก มีประโยชน์อย่างไร

การออมเงินให้ลูก เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างอนาคตที่เข้มแข็งและมั่นคงสำหรับลูก โดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีวินัยทางการเงิน และมีแผนการออมเงินที่ดี ก็จะเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการด้านการเงินของลูกในอนาคต

โดยการออมเพื่อลูกนั้น นอกจากจะเป็นการเตรียมความพร้อม สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตแล้ว การออมเงินยังช่วยสร้างความมั่นคง และมีส่วนต่อการเสริมสร้างทักษะทางการเงินให้กับลูกด้วย ซึ่งการออมเงินให้ลูก ก็มีประโยชน์มากมาย อย่างเช่น

1. สร้างฐานะการเงินที่มั่นคง

การออมเงินให้ลูกเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างฐานะการเงินที่มั่นคงให้กับลูก ซึ่งพ่อแม่อย่างคุณสามารถเริ่มต้นทำได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่

2. ฝึกวินัยทางการเงินที่ดี

การออมเงินให้ลูก เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้พ่อแม่ได้ฝึกการสร้างนิสัย และมีวินัยที่ดีในเรื่องของการเงินมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีไปยังลูก เพราะได้เห็นตัวอย่างในการวางแผน และรู้จักใช้เงินอย่างรอบคอบ มีสติ ทำให้ลูกเรียนรู้ที่จะปรับตัว ใช้ชีวิตให้เหมาะสม ไม่ว่าจะมีเงื่อนไข หรือตกอยู่ในสถานการณ์การเงินแบบใด

3. สนับสนุนการศึกษาและพัฒนาตัวเอง

การออมเงินให้ลูกเพื่อการศึกษาและการพัฒนาตัวเองให้กับลูก จะช่วยสร้างโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ โดยเฉพาะทักษะที่จำเป็น และเป็นที่ต้องการสำหรับอนาคต

4. เอาชนะสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

การเตรียมความพร้อมในการออมเงินให้ลูก จะช่วยให้ลูกมีเงินสำรองที่สามารถนำไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหา และเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด เช่น ภัยพิบัติ การเจ็บป่วย หรือแม้แต่ปัญหาเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ

5. สร้างพื้นฐานที่ดีให้กับอนาคต

การออมเงินให้ลูก เป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่จะช่วยสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับอนาคตของลูกได้ โดยการช่วยให้มีความมั่นคงด้านฐานะการเงิน และสามารถก้าวไปสู่การประสบความสำเร็จด้านอื่นๆ ในชีวิต

รวม 5 วิธีออมเงินให้ลูก สร้างพื้นฐานการเงินสุดปังในอนาคต

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมีฐานะการเงินที่มั่นคง คือใบเบิกทางที่ดีสำหรับเด็กๆ ทุกคน ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่พ่อแม่ทุกครอบครัวต่างให้ความสำคัญกับการออมเงินให้ลูก

และในยุคที่มีทางเลือกหลากหลายเช่นในวันนี้ พ่อแม่หลายคนอาจลังเล และตัดสินใจไม่ถูกว่า จะเลือกวิธีไหนออมเงินเพื่อลูกดี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน โดยบทความนี้ MAKE ได้รวบรวม 5 วิธีออมเงินมาให้แล้ว

1. จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นอีกวิธีที่ดี เพราะจะช่วยให้เข้าใจรายได้และค่าใช้จ่ายของครอบครัว และยังเช็กได้ว่า คุณอยู่ในขอบเขตการใช้เงินที่วางแผนไว้ไหม และเหลือเงินหรือไม่หลังใช้จ่ายแล้ว

ที่สำคัญ การออมเงินให้ลูกด้วยการบริหารเงินผ่านบัญชีรายรับรายจ่าย ยังเป็นการสอนให้ลูกรู้ความสำคัญของการวางแผนการเงิน ทำให้ลูกเรียนรู้และนำไปใช้ เพื่อพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่มีนิสัยการบริหารการเงินที่ดีในวันข้างหน้า

2. เปิดบัญชีธนาคารออมเงินให้ลูก

การออมเงินให้ลูก ด้วยการเปิดบัญชีเงินฝากคู่ที่ให้สิทธิ์ลูกเป็นเจ้าของร่วมกันนั้น เป็นหนึ่งในวิธีการออมเงินแบบความเสี่ยงต่ำ สำหรับครอบครัวที่ไม่ต้องการเผชิญกับความผันผวนต่างๆ

โดยบัญชีนี้ พ่อแม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้ในทุกๆ เดือน เพื่อเก็บสะสมเงินในบัญชีนั้นเป็นเงินในอนาคตให้กับลูก และยังสร้างความมั่นใจให้ลูกได้ด้วยว่า เมื่อโตขึ้นลูกจะมีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในเงินก้อนนั้น

3. ซื้อกองทุนรวม เพื่อออมเงินให้ลูกระยะยาว

สำหรับพ่อแม่ที่พร้อมรับความเสี่ยงในระดับที่มากกว่าการออมเงินในบัญชีธนาคาร การออมเงินให้ลูกด้วยการซื้อกองทุนรวมก็น่าสนใจก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย การลงทุนในกองทุนรวมจะช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถเลือกกองทุนความเสี่ยงต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนได้

แต่ถ้าหากคุณต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น ก็อาจลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เงินออมของลูกเติบโต

4. ออมเงินให้ลูกโดยการลงทุนหุ้นกู้

หุ้นกู้ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ โดยหุ้นกู้เป็นหุ้นที่บริษัทออกมา เพื่อยืมเงินนักลงทุน แล้วจ่ายดอกเบี้ยให้ตามกำหนด ในรูปแบบปันผล เช่น ปีละ 2 ครั้ง ตลอดระยะเวลาสัญญา ซึ่งหุ้นกู้มักมีอายุระหว่าง 3-10 ปี

หุ้นกู้เหมาะสำหรับออมเงินให้ลูกในระยะยาว และเป็นการออมเงินเพื่ออนาคตให้กับลูก โดยคุณสามารถเลือกหุ้นกู้ความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาเงินต้น และได้ปันผลมาสะสม

5. ออมเงินให้ลูกผ่านประกันชีวิตสะสมทรัพย์

อีกหนึ่งวิธีน่าสนใจสำหรับออมเงินให้ลูกคือ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ สามารถออมได้ตั้งแต่ลูกเข้าชั้นอนุบาล โดยเป็นวิธีที่ให้ผลตอบแทนแน่นอน ไม่มีความเสี่ยง ถ้าครบกำหนดก็จะได้เงินก้อนจากบริษัทประกันคืน

นอกจากนี้ ยังเป็นการฝึกให้พ่อแม่ออมเงินอย่างมีวินัย เพราะจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันในแต่ละปี ที่สำคัญ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็จะมีเงินก้อนไว้ให้กับคนข้างหลังอีกด้วย

แอป MAKE by KBank ตัวช่วยสำหรับการออมเงินให้ลูก

หลังจากเห็นความสำคัญของการออมเงินให้ลูกแล้ว จะเห็นว่ามีหลายวิธีให้เลือกสรร แต่สำหรับใครที่ไม่อยากยุ่งยากกับการนั่งทำบัญชี ทำตารางรายรับรายจ่าย หรือตารางออมเงินเอง

ขอแนะนำแอป MAKE by KBank โดยธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นบัญชีที่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงถึง 1.5% ต่อปี และมีฟีเจอร์เด็ดๆ อีกเพียบ เช่น

• Cloud Pocket: แบ่งเงินไว้ในแต่ละกระเป๋าแบบไม่จำกัด
• Expense Summary: สรุปและแยกหมวดหมู่ค่าใช้จ่าย
• Chat Banking: รายงานธุรกรรมในรูปแบบแชต
• Pop Pay: โอนเงินให้คนอื่นในระยะ 10 เมตร โดยไม่ใช้เลขบัญชี
• Shared Cloud Pocket: เก็บเงินร่วมกันด้วยการแชร์กระเป๋า

เปิดบัญชีออมเงินให้ลูก ควรเลือกธนาคารอย่างไร

สำหรับพ่อแม่ที่กำลังเลือกธนาคารที่จะเปิดบัญชีออมเงินให้ลูก มาดูว่ามีอะไรบ้างที่ควรพิจารณา

• ดอกเบี้ย: เลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยที่สูง เพื่อให้เงินออมของลูกมีโอกาสเติบโตเร็วขึ้น
• ความปลอดภัย: เลือกธนาคารที่มีความมั่นคง เป็นที่รู้จัก และน่าเชื่อถือ
• ค่าธรรมเนียม: ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นในการเปิดบัญชี และการใช้งาน
• การให้บริการ: ระดับคุณภาพและมาตรฐานในการให้บริการ
• ความสะดวกสบาย: เลือกธนาคารที่มีสาขาใกล้บ้าน

เอกสารที่ต้องใช้เมื่อเปิดบัญชีออมเงินให้ลูก

เอกสารที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการเปิดบัญชีออมเงินให้ลูก อาจแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร และอายุของลูกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีเอกสารพื้นฐานหลักๆ ที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชีฝากเงินให้ลูก ดังนี้

1. สูติบัตรของเด็ก (มักจะใช้ในกรณีที่เด็กยังไม่มีบัตรประชาชน)
2. บัตรประชาชน (ของพ่อแม่และลูก)
3. สำเนาทะเบียนบ้าน (ของพ่อแม่และลูก)
4. ทะเบียนสมรสของพ่อแม่ หรือใบรับรองบุตร ในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส

สรุปการออมเงินให้ลูก

เพราะการออมเงินให้ลูก เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรวางแผน และเตรียมพร้อมแต่เนิ่นๆ เพื่อปูทางอนาคตที่สดใสให้กับลูก เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้จ่าย ทั้งในเรื่องการศึกษา อาชีพ หรือที่อยู่อาศัย

โดยแอปเก็บเงิน MAKE by KBank ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีในการออมเงินให้ลูก เพราะมีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูง ซึ่งจะทำให้เงินที่พ่อแม่ออมไว้มีโอกาสสะสมเงินได้เพิ่มขึ้น

ไม่เพียงเท่านี้ MAKE by KBank ยังมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์กับการออม เรียกได้ว่า นอกจากได้ออมเงินให้ลูกแล้ว ยังได้ยกระดับความสะดวกสบายในการจัดการเรื่องเงินไปในตัวด้วย