แนะเด็กจบใหม่! การวางแผนการออมที่ดีควรออมจากรายได้กี่เปอร์เซ็นต์ - MAKE by KBank
สแกนเพื่อดาวน์โหลด
MAKE logo
MAKE logo

แนะเด็กจบใหม่! การวางแผนการออมที่ดีควรออมจากรายได้กี่เปอร์เซ็นต์

how-to-save-money-based-on-salary.jpg

เด็กจบใหม่ เริ่มต้นก้าวเท้าสู่วัยทำงาน หลังจากเงินเดือนออกครั้งแรก คงหนีไม่พ้นกับการตั้งคำถามที่ว่าการวางแผนการออมที่ดีควรออมจากรายได้กี่เปอร์เซ็นต์? เพราะแต่ละคนต่างเคยได้ยินคำแนะนำจากเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน และครอบครัว ว่าต้องออม 25% - 30% หรือบางคนก็แนะนำไปถึงขั้นให้ออม 50% ของรายได้เลยก็มี

แต่ทุกคำถามล้วนมีคำตอบ ในบทความนี้เราจึงชวนเด็กจบใหม่ มารู้จักกับแผนการออมต่างๆ ว่ามีอะไรกันบ้าง รับรองสามารถตั้งเป้าหมายการออมเงินใหญ่ เพื่อเก็บเงินซื้อบ้าน หรือเตรียมพร้อมเกษียณได้ก่อนใคร

1. หักออมทันที 10% ของรายได้

ผู้ตั้งเป้าหมายออมเงินครั้งแรก เพื่อวางแผนเกษียณคงมีคำถามว่า การออมเงินที่ดีควรออมจากรายได้กี่เปอร์เซ็นต์? ซึ่งระดับการออมที่เหมาะสม คือ 10% ของรายได้ เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้สูงมากจนเกินไป เช่น เงินเดือน 20,000 บาท หักเป็นเงินออมทันที 2,000 บาท เพื่อให้คุณมีเงินเก็บแน่นอนในแต่ละเดือน

ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องออมเงิน 10% ของรายได้เสมอไป เพราะบางคนมีภาระค่าใช้จ่าย แถมเป็นเสาหลักครอบครัว แม้ว่าทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นแล้วก็ตาม ก็ไม่สามารถออมถึง 10% ได้ หากเป็นเช่นนี้เราจึงไม่แนะนำให้คุณออมเงิน 10% เพราะการออมเงินไม่สัมพันธ์กับค่าใช้จ่าย จะก่อให้เกิดความเครียด จนสุดท้ายหลายคนล้มเลิกการเก็บเงินตามที่ตั้งใจเอาไว้

ในกรณีดังกล่าวเราแนะนำให้ออมเงินอย่างต่ำ 1% หรือ 5% ของรายได้แทน ถึงแม้ว่าจะออมเงินน้อยลง แต่ยังดีกว่ารายจ่ายมากกว่ารายได้ จนสุดท้ายก็ไม่พ้นต้องก่อหนี้ ด้วยการรูดบัตรกดเงินสด หรือขอสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์ทางการเงินแย่ลง

สาเหตุเพราะสินเชื่อกลุ่มนี้คิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าร้อยละ 25% ต่อปี แถมแค่เบิกเงินสดออกมาจากตู้ ATM ดอกเบี้ยก็เริ่มเดินแล้ว จนสุดท้ายหลายคนก็ออมเงินไม่ได้สักที เนื่องจากสิ้นเดือนก็ต้องนำเงินเดือนไปจ่ายหนี้สินแทนการออม ดังนั้นถึงแม้ออมเงินได้ไม่มาก แต่ก็ควรออมอย่างสม่ำเสมอ

2. เพิ่มพูนเงินออมด้วยการมองหาแหล่งเงินลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง

เมื่อทราบไปแล้วว่าการวางแผนการออมที่ดีควรออมจากรายได้กี่เปอร์เซ็นต์? ก็มารู้จักช่องทางการออมต่างๆ โดยวิธีการเก็บเงินของมนุษย์เงินเดือน ไม่ได้มีเพียงแค่ฝากเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการออมในกองทุนรวม หรือออมกับบัญชีเงินประจำที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

ออมผ่านเงินฝากประจำ และสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

1. เงินฝากประจำ

เป็นวิธีการออมเงินที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เพราะเพียงแค่ฝากเงินเข้าไปก็ให้ผลตอบแทนมากกว่า 1 % ต่อปี แต่มีข้อสำคัญที่ควรรู้คือ ดอกเบี้ยของเงินฝากประจำจะต้องจ่ายภาษี 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ หมายความว่าได้ดอกเบี้ย 1,500 บาท จะต้องเสียภาษีเท่ากับ 225 บาท

หากถอนเงินฝากประจำออกมาใช้จ่าย จะได้รับดอกเบี้ยในเรทของเงินฝากออมทรัพย์แบบปกติแทนและการถอนเงินต้องไปทำเรื่องถึงสาขาของธนาคาร ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีเงินฝากประจำ จึงควรวางแผนการใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้รอบคอบ เพื่อได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ

2. ทองคำ

หากรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่งเราแนะนำให้คุณออมในทองคำ ซึ่งอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในทุกปี แถมสภาพคล่องสูง สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้อย่างรวดเร็ว แต่ควรซื้อทองในจังหวะที่ราคาต่ำลง เพื่อได้ราคาที่ต่ำที่สุด เพื่อให้คุณสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว

3. อสังหาริมทรัพย์

อสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือที่ดินล้วนเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และความเสี่ยงต่ำ จึงเหมาะกับผู้มีเงินเย็นอยู่ในบัญชีธนาคาร แต่การลงทุนในอสังหาฯ ก็มีความเสี่ยงจากการขาดทุนได้เช่นกัน ถ้าลงทุนในทำเลไม่เหมาะสม เช่น ที่ดินใกล้โรงเลี้ยงสัตว์ หรือ ตึกแถวไม่มีผู้อยู่อาศัย เป็นต้น

ออมในกองทุนรวมหุ้น

หากต้องการผลตอบแทนในการลงทุนสูง และรับความเสี่ยงจากการขาดทุนได้ การลงทุนในกองทุนรวมก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนตัดสินใจลงทุนควรศึกษาจากหนังสือชี้ชวนเป็นอันดับแรกว่ากองทุนที่คุณสนใจ นำเงินไปลงทุนกับสินทรัพย์ประเภทใด เช่น เงินฝาก, หุ้น หรือทองคำ เพื่อให้คุณได้กองทุนที่ใช่ จนสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้

3. รักษาเงินออม ด้วยการทำประกัน

การวางแผนการออมที่ดี ไม่ใช่แค่การลงทุน หรือซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการออมผ่านการทำประกัน หากสงสัยว่าควรออมเงินในประกันจากรายได้กี่เปอร์เซ็นต์ดี? คำตอบนั้นไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการความคุ้มครองกรมธรรม์ครอบคลุมเพียงใด และควรเริ่มทำประกันตั้งแต่อายุยังน้อยก่อนอายุ 30 ปีได้ยิ่งดี เพราะค่าเบี้ยประกันจะยังคงต่ำอยู่

การทำประกันมีความสำคัญมากกว่าที่คิด เพราะทุกคนล้วนสนใจการออมที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างการลงทุนในกองทุนรวม หรือซื้อทองคำ แต่กลับละเลยความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งหากป่วยด้วยโรคร้ายแรงแล้ว ต้องนำเงินออมทั้งชีวิต มารักษาตัวเพียงครั้งเดียวได้เลย

ด้วยเหตุนี้เราจึงแนะนำให้คุณซื้อประกันสุขภาพ และประกันชีวิต เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรเลือกซื้อประกันที่จ่ายค่าเบี้ยสูงเกินไป เพราะอาจกระทบต่อการบริหารค่าใช้จ่าย

4. รู้จักกับกองทุนเตรียมพร้อมสู่วัยเกษียณ

การวางแผนการออมที่ดีควรหักออมจากรายได้ขั้นต่ำ 10%ก็จริง แต่ตัวเลขดังกล่าว อาจน้อยเกินไปและไม่เพียงพอที่จะเกษียณ เพราะอย่างที่ทุกคนทราบดีแม้ว่าเงินเฟ้อขึ้นปีละไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 20 - 30 ปี มูลค่าของเงินในวันนี้ย่อมลดลง จนทำให้แผนเกษียณไม่เป็นไปอย่างที่คิด ซึ่งคุณอาจใช้ 2 ตัวช่วยเหล่านี้ เพื่อเตรียมพร้อมเกษียณ เพราะให้เงินสมทบสูงมาก

1. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

ใครทำงานบริษัทเอกชนที่่เสนอสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะนอกจากจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของเงินลงทุนจากสินทรัพย์ที่กองทุนนำเงินไปลงทุนแล้ว นายจ้างยังสมทบให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2 -15 ของค่าจ้าง ทั้งนี้รายละเอียดขึ้นอยู่กับข้อบังคับของกองทุน แถมความเสี่ยงของกองทุนยังต่ำกว่ากองทุนรวมหุ้นด้วย ทำให้มั่นใจได้แน่นอนว่าจะมีเงินเก็บยามเกษียณ

2. กองทุนการออมแห่งชาติ

สำหรับฟรีแลนซ์ อาชีพอิสระ ไม่ได้ทำงานประจำเป็นหลักแหล่ง ก็สามารถวางแผนการออมเพื่อชีวิตหลังเกษียณได้ง่ายๆ ผ่านการออมกับกองทุนการออมแห่งชาติ หรือกอช. เพียงแค่ฝากขั้นต่ำ 1,200 บาทต่อปี โดยรัฐบาลสมทบดังนี้

อายุ 15 - 30 ปี รัฐบาลสมทบ 600 บาทต่อปี

อายุ 30 - 50 ปี รัฐสมทบ 80% สูงสุด 960 บาทต่อปี

อายุ 50 - 60 ปี รัฐสมทบ 100% สูงสุด 1,200 บาทต่อปี

แม้ดูเหมือนเป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าออมเงินกับกอช. ในระยะเวลาเกินกว่า 30 ปีขึ้นไป ก็มีเงินเกษียณหลักแสนได้ แถมมีสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการต่างๆ ที่ได้รับเพิ่มเติมอีกด้วย

มองหาตัวช่วยออมเงิน รู้จักกับ แอปเก็บเงิน MAKE by KBank

save-money-based-on-salary.jpg

หลังจากได้คำตอบไปแล้วว่าการวางแผนการออมที่ดีควรออมจากรายได้กี่เปอร์เซ็นต์? และกำลังมองหาตัวช่วยออมเงินได้ง่ายๆ อย่าง แอปเก็บเงิน MAKE by KBank ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์รู้ใจผู้รักการออมอย่าง Cloud Pocket และ Expense Summary

1. Cloud Pocket

ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้วางแผนการออม เพราะสามารถสร้างกระเป๋าเงินชื่อต่างๆ เพื่อแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเงินฝากประจำ, กระเป๋าออมหุ้น, กระเป๋าซื้อประกันชีวิต แถมหากใครมีหนี้สินต้องจ่ายหนี้หลายก้อน ก็สามารถแบ่งเงินมาใส่ไว้ในกระเป๋าจ่ายหนี้ได้ ทำให้จ่ายหนี้ได้ตรงเวลา ไม่เสี่ยงโดนคิดค่าทวงถามอีกด้วย

Cloud Pocket ยังได้ซ่อนฟีเจอร์ลับอย่าง “แผ่นออมเงิน” เพียงตั้งชื่อ Cloud Pocket ว่า “แผ่นออมเงิน” หรือใส่อีโมจิ “” และอาจเปลี่ยนรูปปก Cloud Pocket เพื่อความสวยงามก็ได้เช่นกัน จากนั้นให้กดตั้งค่าล็อกกระเป๋าเงิน ก็จะพบกับน้องเมคสีเหลือง ผู้ทำหน้าที่วางแผนเก็บเงินรายวันอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อน้องเมคปรากฏตัวขึ้น ให้คุณเลือกจำนวนเงินออมที่ต้องการเก็บได้เลย ซึ่งมีตั้งแต่ 1,000 บาท, 3,000 บาท และ 10,000 บาท เสร็จแล้วน้องเมคจะคำนวณให้คุณว่าหากเก็บเงินถึงเป้าหมายจะใช้เวลาเท่าไหร่ และต้องออมเงินต่อวันกี่บาท จึงไม่ใช่แค่มีเงินเก็บเท่านั้น แต่ยังฝึกวินัยการเก็บเงินที่ดีได้ด้วย

2. Expense Summary

หากสงสัยว่าแต่ละเดือนใช้เงินไปกับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แถมไม่มีเวลาจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพียงแค่ใช้ฟีเจอร์ Expense Summary ซึ่งจะช่วยสรุปรายการใช้จ่ายย้อนหลังว่าคุณใช้เงินจากกระเป๋า Cloud Pocket ชื่ออะไรเป็นพิเศษ ทำให้สามารถวางแผนปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นง่ายขึ้น

รู้แล้วว่าการวางแผนการออมที่ดีควรออมจากรายได้กี่เปอร์เซ็นต์ อย่าลืมออมเงินอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่วันนี้ได้เลย!

หวังว่าทุกคนคงได้คำตอบไปแล้วว่าการวางแผนการออมที่ดีควรออมจากรายได้กี่เปอร์เซ็นต์? จะเห็นได้ว่าสิ่งสำคัญของการออมเงิน คือ ความสม่ำเสมอ เพราะไม่ว่าคุณจะออมเงินมากเพียงใด แต่ไม่มีวินัยการออม ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ก็เป็นเรื่องยากที่จะเก็บเงินอยู่ จนไม่สามารถตั้งเป้าเกษียณได้ตามที่คุณต้องการ แต่ก็เริ่มต้นสร้างวินัยการเงินที่ดีได้ผ่านการใช้งานฟีเจอร์ “แผ่นออมเงิน”

และตัวช่วยออมเงินอย่าง MAKE by KBank นอกจากจะมีฟีเจอร์ช่วยให้คุณแบ่งเงินให้เป็นสัดส่วน และสรุปค่าใช้จ่ายได้แล้ว เพียงแค่ฝากเงินเข้าไปยังให้ผลตอบแทนสูงถึง 1.5% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนไม่แพ้บัญชีเงินฝากประจำ 3 เดือน แถมถอนเงินออกมาใช้จ่ายแล้ว ก็ยังให้ดอกเบี้ยเท่าเดิม คือ 1.5% ไม่มีการปรับลดเหมือนกับบัญชีเงินฝากประจำ

รู้อย่างนี้แล้วก็ดาวน์โหลด MAKE by KBank ได้เลยที่ Play Store และ App Store และไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใช้งานธนาคารกสิกรมาก่อน ก็เปิดบัญชีกับ MAKE by KBank ได้ทุกที่ผ่านปลายนิ้ว!

กลับไปหน้าแรก