

การซื้อทองเก็บไว้มีข้อดีในระยะยาว แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคน หากมองในแง่มุมการลงทุนแล้ว แม้ทองคำจะมีมูลค่าสูงขึ้น ช่วยป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ และสร้างมั่นคงได้ในระยะยาว แต่ทองคำก็เป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนในระยะสั้น ทำให้ต้องวางแผนการลงทุนอย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการวางแผนการเงินที่รองรับความเสี่ยงจากราคาทองที่ผันผวนได้
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นลงทุน ไม่มั่นใจว่าจะซื้อทองเก็บไว้ดีไหม ลองมาดูทุกเรื่องที่ต้องเข้าใจก่อนซื้อทองเก็บกัน
การลงทุนทอง คือ การถือครองทองคำในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็งกำไร หรือ เก็บรักษามูลค่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อทองเก็บ ออมทอง หรือ เทรดทองก็ถือเป็นการลงทุนได้เช่นกัน
โดยทองคำถือเป็นการลงทุนที่มีสถานะเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” (Safe Haven) ที่ผู้คนหันมาซื้อเมื่อเศรษฐกิจผันผวน หรือ นักลงทุนบางส่วนยังเลือกลงทุนในทองคำเพื่อสร้างผลตอบแทนในช่วงที่การลงทุนอื่น ๆ โดยเฉพาะหุ้น อยู่ในช่วงขาลง
โดยรายงาน Q3 2024 จาก World Gold Council ระบุว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 5% เมื่อเทียบปีต่อปี (YoY) สะท้อนให้เห็นว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก และมีบทบาทสำคัญในการกระจายความเสี่ยงและรักษามูลค่าในระยะยาว
การลงทุนทองไม่ได้มีแค่การซื้อทองมาเก็บอย่างเดียว แต่นักลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนในทองคำตามงบประมาณ ความเหมาะสม รวมถึงความเสี่ยงที่รับไหวได้ โดยในปัจจุบันนี้ นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในทองคำได้ 5 วิธีหลัก ดังนี้
การลงทุนทองคำแท่ง คือ การซื้อทองเก็บไว้กับตัวเอง เพื่อรอการทำกำไรจากการซื้อขายในอนาคต โดยทองคำแท่งสามารถเป็นได้ทั้งทองความบริสุทธิ์ 96.5% มาตรฐานทองคำไทย หรือ ทองคำบริสุทธิ์ 99.99% ตามมาตรฐานโลก
นักลงทุนสามารถซื้อขายทองคำแท่งได้กับร้านทอง หรือ สถาบันที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง เช่น ได้รับรองจากสมาคมค้าทองคำ เป็นต้น โดยในปัจจุบันนี้ การลงทุนทองคำแท่งจะมีค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า “ค่าบล็อก” หรือ “ค่าจัดทำ” เมื่อทำการซื้อ แต่จะไม่มีค่ากำเหน็จเมื่อขาย
การลงทุนทองคำแท่งมีข้อดีในเรื่องของความคล่องตัวในการซื้อขาย ทั้งยังให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว จึงเหมาะสำหรับการออมและการลงทุนระยะกลางและระยะยาวเป็นหลัก
ทองรูปพรรณ คือ ทองคำที่ถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ทองคำ เช่น เครื่องประดับ สร้อยคอ แหวน หรือ สร้อยข้อมือ ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขายทองรูปพรรณได้กับร้านทอง หรือ สถาบันที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ดี เมื่อขายทองรูปพรรณ นักลงทุนอาจถูกหัก “ค่าหลอมทอง” และ “ค่ากำเหน็จ” เนื่องจากทองรูปพรรณต้องมีการหลอมเพื่อแยกส่วนผสมอื่น ๆ ที่ใช้ในการเชื่อมทองก่อนนำไปหลอมเป็นทองคำแท่ง
นอกจากนี้ ทองรูปพรรณยังมีความเสี่ยงที่เนื้อทองจะบางลงจากการใช้งาน ทำให้มูลค่าทองคำลดลงได้
การออมทอง คือ การสะสมหน่วยทองคำโดยการเปิดบัญชีออมทองกับร้านทอง สถาบัน หรือ ผู้ให้บริการลงทุนทองที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง
วิธีคิดจะคล้าย ๆ การซื้อทองเก็บ แต่นักลงทุนจะต้องโอนเงินสะสมผ่านการฝากเงินเป็นรายเดือน หรือ ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยจะแลกเปลี่ยนเป็นทองคำแท่งได้ก็ต่อเมื่อสะสมเงินได้มากกว่าหรือเท่ากับราคาทองที่จะแลกเปลี่ยนในเวลานั้น ๆ
การออมทองมีข้อดีในเรื่องของต้นทุนการลงทุนที่น้อยกว่าวิธีอื่น ๆ ทั้งยังเป็นการสร้างวินัยทางการออมได้ในระยะยาว แต่นักลงทุนก็ต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ รวมถึงศึกษาเงื่อนไข และค่าใช้จ่ายแฝงในการแลกเปลี่ยนทองด้วย
การเทรดทอง คือ การซื้อขายทองคำในตลาดโลกเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคาในระยะเวลาสั้น ๆ โดยสามารถลงทุนผ่านการเทรดสัญญาทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) หรือการเทรดออนไลน์กับสถาบันทองคำที่น่าเชื่อถือ
การเทรดทองมีโอกาสทำกำไรสูงในระยะสั้น และสามารถซื้อขายได้ทั้งขาขึ้นและขาลง แต่ก็จัดเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมากจากความผันผวนของราคา ต้องมีเวลาติดตามราคาซื้อขายอย่างใกล้ชิด ทั้งยังมีค่าคอมมิชชันและค่าธรรมเนียมการเทรดด้วย
ดังนั้น ใครตัดสินใจจะเทรดทอง อย่าลืมศึกษาเงื่อนไขและระดับความเสี่ยงที่รับได้ก่อนตัดสินใจลงทุนด้วย
นอกจากจะซื้อทองเก็บแล้ว นักลงทุนยังสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าอ้างอิงกับราคาทองคำ เช่น กองทุนรวมทองคำ ETF ทองคำ หรือ หุ้นบริษัทเหมืองแร่ทองได้เหมือนกัน
แต่การลงทุนในลักษณะนี้ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ทั้งจากผลตอบแทนที่ขึ้นอยู่กับการบริหารของผู้จัดการกองทุน และผลประกอบการของธุรกิจที่มูลค่าอ้างอิงกับราคาทองคำ ดังนั้น ใครตัดสินใจจะลงทุนทองด้วยวิธีนี้ อย่าลืมประเมินความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลก่อนลงทุนเสมอ
ทองแท่ง
ทองรูปพรรณ
ออมทอง
เทรดทอง
ลงทุนในทองทางอ้อม
ราคาทองคำไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาซื้อขายหน้าร้านทองอย่างเดียว แต่ยังมีอีก 5 ปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
หากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ทองคำจะได้รับความนิยมน้อยลงเนื่องจากไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
หากเงินเฟ้อสูงขึ้น มูลค่าของเงินจะลดลง ทำให้ผู้คนหันมาซื้อทองคำเพื่อปกป้องความมั่งคั่ง ดันราคาทองให้สูงขึ้น
ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจหรือความขัดแย้งทางการเมือง ทองคำจะถูกมองว่าเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" แลกเปลี่ยนได้ง่าย ส่งผลให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้น
ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ หากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำในสกุลเงินอื่น ๆ จะถูกลง ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่สามารถซื้อทองเก็บไว้ลงทุนได้
เช่น ในช่วงต้นเดือนมกราคมก่อนเทศกาลตรุษจีน ราคาทองมักจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการของตลาดในประเทศจีนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาโดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ช่วงปลายปีถึงต้นเดือนมกราคม เป็นช่วงที่นักลงทุนมักเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี การจับจังหวะการลงทุนทองคำเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีถือเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากราคาทองคำในระยะสั้นนั้นมีความผันผวนสูง ดังนั้น การทยอยซื้อทองเก็บสะสม หรือที่เรียกว่า DCA (Dollar-Cost Averaging) จึงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่มากกว่า
การซื้อทองเก็บไว้สามารถช่วยกระจายความเสี่ยงและป้องกันเงินเฟ้อได้ดีกว่าการถือเงินสดเฉย ๆ แม้ราคาทองคำจะมีความผันผวนในระยะสั้น ก็มีศักยภาพที่จะรักษามูลค่าและเพิ่มขึ้นในระยะยาว
โดยข้อมูลจาก IMF World Economic Outlook ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ราว 3–4% ต่อปี แต่เงินเก็บกลับมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยไม่ถึง 3% ในขณะที่ราคาทองคำมีแนวโน้มเติบโตมากกว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (อ้างอิงจาก Kinesis Money) ด้วยเหตุนี้ การซื้อทองเก็บอาจเป็นทางเลือกที่ช่วยสร้างผลตอบแทนและสู้กับเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ทองคำยังสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย ทั้งยังเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และสามารถนำไปขายหรือใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้เกือบทุกประเทศ
การซื้อทองเก็บไม่ใช่แค่การซื้อแล้วเก็บไว้เฉย ๆ แต่ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้การซื้อทองสามารถสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพในอนาคตได้ โดยสามารถเริ่มวางแผนได้ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
ก่อนซื้อทองคำควรถามตัวเองว่า "เราซื้อทองเพื่ออะไร?" เช่น ซื้อเพื่อเก็บออมระยะยาวเพื่อไว้ใช้จ่ายยามเกษียณหรือเป็นเงินฉุกเฉิน หรือ ซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจากความผันผวนของราคา
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเองและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ทนต่อเงินเฟ้อ สามารถพกพาหรือเคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่าสินทรัพย์ขนาดใหญ่ และเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย แม้ในยามเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
ทองคำเป็นการลงทุนที่มีราคาผันผวนในระยะสั้น นักลงทุนจึงควรมีแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับความเสี่ยงจากราคาที่ผันผวน
หากเป็นการลงทุนทองคำรูปพรรณก็จะมีค่ากำเหน็จ ค่าหลอมทอง และค่าเสื่อมที่เกิดจากการใช้งานที่ทำให้ทองบางลงจนส่งผลกับมูลค่า
นอกจากนี้ หากตัดสินใจซื้อทองเก็บไว้เอง ก็จะต้องหาสถานที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการสูญหายหรือถูกโจรกรรมด้วยเช่นกัน
การซื้อทองเก็บไว้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาการออมและการลงทุนในระยะกลางถึงยาว ตลอดจนผู้ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การลงทุนทองอาจไม่ตอบโจทย์นักลงทุนที่หวังผลตอบแทนในระยะสั้น หากไม่มีประสบการณ์การลงทุนทองคำ หรือ รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูง ที่จะลงทุนทองคำด้วยการเทรดทอง หรือ การลงทุนทองทางอ้อม
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ไม่ว่าจะเลือกซื้อทองเก็บ หรือ ลงทุนทองรูปแบบใด การลงทุนในทองคำควรเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุน และไม่ควรนำเงินทั้งหมดมาลงทุนในสินทรัพย์ชนิดเดียว นักลงทุนจึงควรกำหนดเป้าหมาย วางแผน และจัดสรรงบในการลงทุนโดยไม่กระทบกับเงินหมุนเวียนหรือเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยมีเครื่องมืออย่าง MAKE by KBank ที่มีฟีเจอร์ Cloud Pocket ที่สามารถแบ่งกระเป๋าเงินแยกสำหรับการลงทุนในทองหรือเพื่อเป้าหมายอื่น ๆ ได้
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์แผ่นออมเงินและแผ่นออมเพื่อซื้อทอง ที่ช่วยให้การออมให้ถึงเป้าหมายเป็นเรื่องง่าย เหมาะกับคนที่ต้องการเก็บเงินก้อนก่อนลงทุนในทอง เพียงตั้งยอดเงินที่ต้องการจะออม แล้วแบ่งเก็บทีละน้อยแต่ต่อเนื่อง (ตามจำนวนเงินที่ขึ้นในแผ่นออมเงิน) จนถึงเป้า
ฟีเจอร์ดี ๆ แบบนี้จะช่วยให้เราจัดการการเงินได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเลือกลงทุนในทอง ในหุ้น หรือในกองทุน