ประกันโรคร้ายแรงจำเป็นแค่ไหน คุ้มครองครอบคลุมอะไรบ้าง?

เมื่ออายุเข้าสู่เลขสาม หลายคนเริ่มมองหาเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยรองรับความเสี่ยงในชีวิตมากขึ้น หนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามคือ ประกันโรคร้ายแรง เพราะโรคร้ายหลายชนิดอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว การมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมและจำเป็นจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน และยังเป็นอีกหนึ่งความอุ่นใจให้กับตัวเองและครอบครัวในระยะยาว

บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่าประกันภัยโรคร้ายแรงคืออะไร ต่างจากประกันชีวิต และประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์อย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

สารบัญบทความ

[ประกันโรคร้ายแรงคืออะไร ทำไมจึงสำคัญ?](#ประกันโรคร้ายแรงคืออะไร ทำไมจึงสำคัญ?)

ประกันโรคร้ายแรงคุ้มครองโรคอะไรบ้าง และไม่คุ้มครองโรคอะไรบ้าง?

ประกันโรคร้ายแรงเหมาะกับใครบ้าง?

ประโยชน์ของประกันโรคร้ายแรงมีอะไรบ้าง?

ฟีเจอร์ MAKE by KBank จัดการเบี้ยประกันอย่างง่ายดาย

ประกันโรคร้ายแรง คุ้มครองคุณและคนที่คุณรักอย่างครอบคลุม

ประกันโรคร้ายแรงคืออะไร ทำไมจึงสำคัญ?

ประกันโรคร้ายแรง คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองเมื่อตรวจพบว่าเราเป็นโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ภายในกรมธรรม์ เช่น มะเร็ง หัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง เมื่อเข้าเงื่อนไขที่บริษัทประกันกำหนด ผู้ทำประกันโรคร้ายจะได้รับเงินก้อนทันที เพื่อให้นำไปใช้จ่ายในการรักษา ฟื้นฟูร่างกาย หรือแม้กระทั่งชดเชยรายได้ที่หายไประหว่างที่หยุดงานรักษาตัว

ประกันโรคร้ายแรงคุ้มครองโรคอะไรบ้าง และไม่คุ้มครองโรคอะไรบ้าง?

โดยทั่วไปแล้วประกันโรคร้าย เจอ จ่าย จบมักออกแบบมาเพื่อดูแลค่าใช้จ่ายเมื่อตรวจพบโรคที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตและรายได้ ได้แก่

มะเร็งทุกระยะ

มะเร็งเป็นหนึ่งในโรคที่หลายคนกังวล เพราะอาจเกิดขึ้นได้แม้ไม่มีประวัติครอบครัว และการรักษามีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่ายา เคมีบำบัด การผ่าตัด และการดูแลระยะยาว ประกันโรคร้ายแรงหลายแผนครอบคลุม มะเร็งระยะไม่ลุกลาม (ระยะแรกเริ่ม) และระยะลุกลาม โดยให้เงินก้อนทันทีเมื่อได้รับการวินิจฉัย ทำให้ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจรักษาได้อย่างทันท่วงที และไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

โรคเกี่ยวกับระบบประสาท

กลุ่มโรคทางระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด โรคอัลไซเมอร์ หรือภาวะสมองเสื่อม โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตกที่จำเป็นต้องรักษาอย่างเร่งด่วน โรคเหล่านี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องหยุดทำงานเพื่อเข้ารับการรักษาฟื้นฟู ประกันโรคร้ายจะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น ทั้งค่ารักษา ค่าดูแลผู้ป่วยระยะยาว และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ ระหว่างที่ไม่สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ

โรคหัวใจและหลอดเลือด

โรคหัวใจยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทยและทั่วโลก ตัวอย่างโรคในกลุ่มนี้ได้แก่

กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากภาวะขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน ภาวะหัวใจวาย และหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งมักเกิดขึ้นแบบกะทันหัน ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เช่น การทำบอลลูนหัวใจ การผ่าตัด หรือพักฟื้นใน ICU ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก การมีประกันชีวิตคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมโรคหัวใจจะช่วยให้เข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอเงิน หรือกังวลกับค่าใช้จ่ายที่ตามมา

โรคของอวัยวะภายในที่ล้มเหลว

เมื่ออวัยวะสำคัญเริ่มทำงานผิดปกติอย่างถาวร เช่น ไตวายเรื้อรังที่ต้องฟอกไตต่อเนื่อง โรคปอดระยะสุดท้าย โรคตับแข็งขั้นรุนแรง และโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ที่ส่งผลต่อการหายใจ ผู้ป่วยมักต้องรับการรักษาระยะยาว และในบางกรณีอาจต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงปรับวิถีชีวิตใหม่ทั้งหมด

ประกันสุขภาพโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมโรคเหล่านี้จะช่วยคุณรับมือกับค่าใช้จ่ายในระยะยาว ทั้งค่ารักษา ค่าพยาบาล และค่าบริการฟื้นฟูสุขภาพ

โรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันและเมตาบอลิซึม

ประกันสุขภาพโรคร้ายบางแผนยังคุ้มครองโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันและความผิดปกติของระบบเมตาบอลิซึม ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหรือเรื้อรัง เช่น

• โรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus) หรือโรคพุ่มพวง ซึ่งเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ส่งผลต่ออวัยวะหลายระบบในร่างกาย
• โรคเบาหวานแทรกซ้อนขั้นรุนแรง เช่น เบาหวานที่ส่งผลให้ไตวาย ตาบอด หรือเกิดแผลเรื้อรังที่รักษาไม่หาย
• โรคทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดความผิดปกติในการเผาผลาญ เช่น โรคโกเชร์ (Gaucher Disease) ซึ่งอาจนำไปสู่การทำงานผิดปกติของตับ ม้าม และระบบประสาท

ประกันชีวิตโรคร้ายแรงมักมีระยะเวลารอคอย ประมาณ 90-120 วัน หากตรวจพบโรคภายในช่วงเวลานี้ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง อย่างไรก็ตามมีบางโรคที่ประกันไม่คุ้มครอง คือโรคประจำตัวที่เป็นมาก่อนการทำประกัน โรคทางจิตเวชและสุขภาพจิต รวมถึงโรคหรือภาวะที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การใช้สารเสพติด การดื่มสุราหนัก และการสูบบุหรี่เรื้อรัง

ประกันโรคร้ายแรงเหมาะกับใครบ้าง?

แม้จะรู้สึกแข็งแรงดี แต่โรคร้ายแรงมักไม่เตือนล่วงหน้าและมาพร้อมค่าใช้จ่ายมหาศาล การมีประกันโรคร้ายแรงจึงเปรียบเสมือนเกราะป้องกันสำคัญ แล้วใครบ้างที่ควรพิจารณาทำประกันแบบนี้ มาดูกัน!

• พนักงานบริษัทหรือข้าราชการที่มีสวัสดิการอยู่แล้ว : แม้จะมีสวัสดิการรักษาพยาบาล แต่ส่วนใหญ่คุ้มครองเฉพาะโรคทั่วไป และมักมีวงเงินจำกัด หากต้องเจอกับโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง หรือโรคหัวใจ อาจต้องจ่ายเองจำนวนมาก
• คนวัยทำงาน : การงานที่ยุ่ง พักผ่อนน้อย บวกกับความเครียดและมลภาวะ ทำให้คนวัยทำงานกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว การซื้อประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่อายุยังน้อยจะได้เบี้ยถูกกว่า แถมช่วยคุ้มครองตั้งแต่ยังไม่พบอาการร้ายแรง
• คนที่ไม่อยากให้เงินสำรองฉุกเฉินละลาย : ค่ารักษาโรคร้ายแรงอาจแตะหลักแสนหรือหลักล้าน และยังต้องหยุดงานเพื่อรักษาตัวอีกด้วย ประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงจะช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของประกันโรคร้ายแรงมีอะไรบ้าง?

หลายคนเริ่มมองหาประกันโรคร้ายแรงเพื่อใช้เป็นหลักประกันสำรอง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายหรือผลกระทบต่อชีวิต มาดูกันว่าประกันโรคร้ายแรงมีประโยชน์อะไรบ้าง

รองรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว

เมื่อคุณถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงบริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนตามแผนความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่คุณเลือกไว้ เพื่อให้คุณนำไปใช้จ่ายค่ารักษาได้ทันที ไม่ต้องรอเบิก ไม่ต้องใช้เงินเก็บหรือเงินสำรองของครอบครัว ทำให้คุณโฟกัสกับการรักษาได้เต็มที่

เข้าถึงการรักษาที่ทันสมัยและมีคุณภาพมากขึ้น

ปัจจุบันการรักษาโรคหลายชนิดมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา เช่น การรักษามะเร็งด้วย Targeted Therapy หรือการผ่าตัดแบบไร้แผล ซึ่งแม้จะมีโอกาสหายสูงขึ้น แต่ก็มาพร้อมค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน หากคุณมีประกันโรคร้ายแรง เจอ จ่าย จบ จะช่วยให้คุณเลือกการรักษาที่ดีที่สุดได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

วางแผนการเงินได้อย่างมั่นคง

เมื่อคุณมีประกันโรคร้ายแรง คุณจะสามารถวางแผนทางการเงินในระยะยาวได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะต้องสำรองเงินไว้เผื่อเจ็บป่วยหนัก อีกทั้งเบี้ยประกันยังสามารถชำระแบบรายปีหรือรายเดือนที่มีจำนวนคงที่ ทำให้วางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีระบบ

เบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

อีกหนึ่งข้อดีที่หลายคนมักมองข้ามก็คือ เบี้ยประกันบางประเภท เช่น ประกันโรคร้ายแรง สามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ด้วย เท่ากับว่าคุณไม่เพียงแต่ได้หลักประกันเรื่องสุขภาพ แต่ยังช่วยประหยัดภาษีในแต่ละปีอีกด้วย

อุ่นใจทั้งตัวคุณเองและครอบครัว

โรคร้ายแรงไม่ได้กระทบแค่สุขภาพแต่ยังส่งผลถึงรายได้ ความเป็นอยู่ของครอบครัว และแผนชีวิตในอนาคต สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าควรทําประกันชีวิตให้พ่อแม่แบบไหนดี การมีประกันโรคร้ายแรงไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ คือการดูแลคนที่คุณรักไม่ให้ต้องรับภาระมากเกินไป หากวันหนึ่งคุณต้องหยุดทำงานเพื่อรักษาตัว

ฟีเจอร์ MAKE by KBank จัดการเบี้ยประกันอย่างง่ายดาย

ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเสี่ยงจากโรคร้ายแรงหรืออุบัติเหตุต่างๆ การมีประกันที่ดีเพื่อรองรับความเสี่ยงเหล่านี้จึงเป็นเรื่องจำเป็น แอป MAKE by KBank ได้ตอบโจทย์ความต้องการนี้ ให้ทุกคนเก็บค่าเบี้ยประกันง่ายๆ ด้วยฟีเจอร์ Cloud Pocket ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเก็บเบี้ยประกันอย่างมีระเบียบ และสามารถใช้ในการจ่ายเบี้ยประกันได้สะดวกง่ายดาย

คุณสามารถสร้างกระเป๋าเงินสำหรับเก็บเงินค่าเบี้ยประกันโดยเฉพาะได้ ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยประกันโรคร้ายแรง ประกันชีวิต หรือจะเป็นประกันสุขภาพ ซึ่งเงินในส่วนนี้จะถูกแยกออกจากบัญชีเงินออมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างชัดเจน ทำให้สามารถทยอยเก็บเงินค่าเบี้ยประกันได้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเผลอนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายเรื่องอื่น และช่วยสร้างวินัยในการออมเพื่อเป้าหมายการจ่ายเบี้ยประกันโดยเฉพาะ

สำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มครองด้านสุขภาพ ขอแนะนำ ประกัน CI Cash Return โรคร้ายแรง ไม่เคลมมีคืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและสามารถทำได้สะดวกผ่านแอป MAKE by KBank โดยจุดเด่นของประกัน CI Cash Return คือถ้าไม่มีการเรียกร้องสินไหมทดแทนตลอดระยะเวลา 5 ปี จะได้รับเงินคืนตามเงื่อนไขที่กำหนด ครอบคลุมถึง 12 โรคร้ายแรงยอดฮิต โดยให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 1,000,000 บาท เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 670 บาทต่อเดือน และไม่ต้องตรวจสุขภาพก่อนทำประกัน!

ประกันโรคร้ายแรง คุ้มครองคุณและคนที่คุณรักอย่างครอบคลุม

การทำประกันโรคร้ายแรงถือเป็นการเตรียมความพร้อมทางการเงินในกรณีที่คุณหรือคนในครอบครัวต้องเผชิญกับโรคที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน การมีประกันโรคร้ายแรงจะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และช่วยให้คุณสามารถเข้ารับการรักษาที่ดีที่สุดได้ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับใครที่มองหาวิธีการจัดการค่าเบี้ยประกันอย่างสะดวกและปลอดภัย แอป MAKE by KBank เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม แอปนี้ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บและจ่ายเบี้ยประกันโรคร้ายแรงได้ง่ายๆ ผ่านฟีเจอร์ Cloud Pocket ที่รองรับการจัดการการเงินแบบมีระเบียบ สามารถตั้งค่าการจ่ายเบี้ยประกันอัตโนมัติ และแบ่งปันค่าใช้จ่ายกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนๆ ได้อย่างสะดวก