8 วิธีแก้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิต แก้อย่างไรก่อนเป็นหนี้เสีย
‘การติดหนี้บัตรเครดิต’ นับเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับมนุษย์ออฟฟิศตั้งแต่เริ่มทำงาน เพราะหลังจากหาเงินด้วยตนเองได้ เมื่อเห็นสิ่งล่อตาล่อใจ เช่น สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่เปิดตัว หรือคอมพิวเตอร์ที่อยากได้ ก็ไม่พ้นต้องรูดบัตรเครดิตซื้อของมาก่อน แล้วค่อยผ่อนจ่ายภายหลังแม้ว่าไม่มีเงินก็ตาม
และถ้ารูดบัตรเครดิตโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ อาจไม่สามารถหาเงินผ่อนชำระได้ แต่ปัญหาดังกล่าวจะหมดไป เพราะเรารวบรวม 8 วิธีที่จะช่วยให้คุณแก้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตให้หมดไว มีเงินเหลือเก็บเพิ่มขึ้น และเริ่มต้นวางแผนทางการเงินในระยะยาวได้อย่างดี
1. ใช้งานบัตรเครดิตใบที่จำเป็น
สาเหตุแรกของการติดหนี้บัตรเครดิตคงหนีไม่พ้นกับการมีบัตรเครดิตหลายใบ จึงเผลอรูดบัตรเครดิตโดยไม่จำเป็น และมีโอกาสรูดบัตรผิดใบได้ง่าย เช่น บัตรเครดิตของธนาคาร A คิดดอกเบี้ย 16% ต่อปี ในขณะที่บัตรเครดิตธนาคาร B คิดดอกเบี้ย 14% ต่อปีในช่วง 3 เดือนแรก ทำให้ตอนอยากรูดบัตรเครดิตของธนาคาร B กลับหยิบของธนาคาร A แทน เพราะสับสนจากการมีใบบัตรเครดิตหลายใบ
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า บัตรเครดิตส่วนใหญ่จะคิดค่าธรรมเนียมรายปีด้วย หมายความว่าถ้าคุณไม่ใช้งานบัตรเครดิตใบนั้นๆ เลยตลอดทั้งปี ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินนั้นๆ กำหนด เพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี ผู้ใช้งานจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้งาน
ดังนั้น การปิดบัตรเครดิตใบที่ไม่จำเป็นต่อการใช้งาน และเลือกใช้งานใบที่เหมาะกับคุณเท่านั้น จะสามารถช่วยให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น ลดโอกาสการติดหนี้บัตรเครดิตหลายใบนั่นเอง
2. วางแผนการใช้จ่ายรายเดือน
ปัญหาการติดหนี้บัตรเครดิต นอกจากจะใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็นแล้ว การรู้จักการบริหารค่าใช้จ่ายก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ดีขึ้น โดยแนะนำให้คุณทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นประจำเพื่อให้เห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายรายเดือน
แม้ว่าการทำบัญชีรายรับรายจ่ายเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่น้อยคนที่จะลงรายการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักลงตัวเลขต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะหลงลืมใส่ข้อมูลค่าใช้จ่ายเล็กน้อย เช่น ค่าเดินทาง ค่าขนมจุกจิก หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น
3. เจรจาประนอมหนี้ ก็ช่วยได้
เมื่อติดหนี้บัตรเครดิตแล้ว ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการหนีหนี้ เพราะจะทำให้สถานการณ์แย่ลง และหากปล่อยไว้หนี้บัตรเครดิตจะยิ่งพอกพูน จนไม่สามารถหาทางปิดหนี้บัตรเครดิตได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณวางแผนเก็บเงินซื้อบ้านและต้องการขอสินเชื่อซื้อบ้าน แต่เมื่อสถาบันการเงินตรวจสอบเครดิตบูโรแล้วพบว่าคุณติดหนี้บัตรเครดิตอยู่ ก็มีโอกาสผ่านการพิจารณาขอสินเชื่อน้อย
ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตที่ถูกต้องคือการเจรจาประนอมหนี้ เช่น ขอลดดอกเบี้ย ขอลดเงินต้นลง หรือขอยืดระยะเวลาผ่อนชำระ ซึ่งจะช่วยรักษาเครดิตทางการเงินที่ดี จนสามารถขอสินเชื่อเพื่อต่อยอดอนาคตได้นั่นเอง
4.ไม่กดเงินสดจากบัตรเครดิต
หากคุณติดหนี้บัตรเครดิตจำนวนมากและเป็นหนี้อื่นๆ ร่วมด้วย ทำให้ไม่มีเงินใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน บางคนก็อาจแก้ปัญหาด้วยการกดเงินสดจากบัตรเครดิต ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้อง เพราะโดยปกติแล้วบัตรเครดิตจะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยอยู่ เช่น 45 วัน หรือ 90 วัน แล้วแต่เงื่อนไข
แต่เมื่อเบิกเงินสดออกมาดอกเบี้ยของบัตรเครดิตจะคิดเป็นรายวันทันที แถมต้องเสียค่าธรรมเนียมเบิกถอน 3% และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ด้วย ทำให้การแก้ไขปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตเป็นเรื่องยากขึ้น
5. จ่ายเต็มวงเงิน แทนที่จะจ่ายขั้นต่ำ
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตได้คือ การชำระขั้นต่ำ เพราะจะทำให้เกิดหนี้ 2 ก้อนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ได้แก่ หนี้ที่ต้องจ่ายเต็มวงเงิน และ หนี้หลังจากชำระขั้นต่ำ
ตัวอย่างเช่น รูดบัตรเครดิตไปจำนวนทั้งสิ้น 20,000 บาท ในวันที่ 15 สิงหาคม เมื่อถึงวันครบกำหนดชำระวันที่ 10 กันยายน คุณเลือกชำระขั้นต่ำ 3% คือ 6,000 บาท แต่การคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต หากไม่ชำระเต็มจำนวน ธนาคารจะคิดยอดหนี้เท่ากับ 20,000 บาท ไม่ใช่ 14,000 บาท อย่างที่คุณเข้าใจ
และยอดหนี้ 20,000 บาท ทางธนาคารจะคิดคำนวณดอกเบี้ยย้อนหลังเป็นรายวันตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม จนถึง 10 กันยายน ส่วนหนี้ที่เหลือ 14,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยรายวันจนถึงวันสรุปยอดในงวดถัดไป เห็นได้ว่าหากจ่ายขั้นต่ำเพียงอย่างเดียว ก็เป็นเรื่องยากที่จะปิดหนี้บัตรเครดิตได้
6. คิดก่อนรูดบัตรเครดิตเสมอ
หากใช้บัตรเครดิตให้ดีก็สามารถเกิดประโยชน์มากมาย เช่น ข้อเสนอผ่อน 0% นาน 10 เดือน ทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินสดออกไปก่อน ช่วยให้มีเงินหมุนเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน และแต้มที่ได้รับจากบัตรเครดิต ก็สามารถใช้เป็นส่วนลด ในการซื้อของในราคาประหยัดมากกว่าใคร
แต่ถ้าใช้บัตรเครดิตเพื่อหาเงินมาจ่ายภายหลัง รับรองว่าต้องติดหนี้บัตรเครดิตแน่นอน เพราะอย่าลืมว่าบัตรเครดิตเป็นการใช้เงินในอนาคต ดังนั้นจึงควรปรับทัศนคติให้คิดว่า การรูดบัตรเครดิตเหมือนกับการใช้เงินสดออกไปจริงๆ โดยการหักเงินในบัญชีเงินฝากบางส่วนใส่ไว้ในบัญชีสำหรับจ่ายหนี้บัตรเครดิตทันทีเมื่อมีการรูดบัตร เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันการติดหนี้บัตรเครดิตได้ในระดับหนึ่งแล้ว
7. ขอสินเชื่อรวมหนี้ เหมาะสำหรับผู้มีหนี้หลายก้อน
หากคุณติดหนี้บัตรเครดิตหลายใบและหนี้อื่นด้วย เช่น หนี้บ้าน หรือหนี้รถยนต์ เราแนะนำให้ขอสินเชื่อรวมหนี้ เพื่อให้บริหารจัดการหนี้ง่ายกว่าเดิม เพราะคุณจะเห็นว่ายอดหนี้ที่แท้จริงมีทั้งหมดเท่าไหร่ และช่วยให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลงด้วย
จากเดิมที่จ่ายหนี้หลายก้อน ซึ่งมีโอกาสผิดนัดชำระ เพราะหนี้แต่ละประเภทกำหนดเวลาจ่ายในแต่ละเดือนไม่เหมือนกัน เช่น จากเดิมหนี้บัตรเครดิตกำหนดชำระวันที่ 17 หนี้รถยนต์ชำระวันที่ 20 หนี้บ้านชำระวันที่ 21 แต่เมื่อขอสินเชื่อรวมหนี้แล้วก็ไม่ต้องปวดหัวกับวันผ่อนชำระ เพราะจะรวมทุกหนี้มาผ่อนในวันเดียวเลย
8. เพิ่มการออมเงิน
การที่จะแก้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีเก็บเงินฉบับของมนุษย์เงินเดือน เพราะช่วยให้คุณมีวินัยทางการเงินที่ดี รู้จักการออมก่อนใช้จ่าย ทำให้มีเงินเก็บ จนสามารถซื้อของด้วยเงินสดได้ ไม่ต้องรูดบัตรเครดิตให้เสี่ยงต่อการผิดนัดชำระ
การออมเงินก็มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์, บัญชีเงินฝากประจำ, ลงทุนในกองทุนรวม หรือแม้แต่การออมทอง หากคุณออมอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกออมในรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด ก็มีเงินเก็บไว้เตรียมพร้อมกับเรื่องต่างๆ ในอนาคตอีกด้วย
ตัวช่วยแก้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิต พร้อมเก็บเงินได้อยู่หมัดอย่าง “MAKE by KBank"
หลังจากทำความรู้จักกับ 8 วิธีแก้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตไปแล้ว หากต้องการผู้ช่วยให้คุณออกแบบวิธีบริหารเงินที่เหมาะแก่ตนเองง่ายๆ ไม่ควรพลาดกับแอปพลิเคชัน MAKE by KBank จากธนาคารกสิกร ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ยอดฮิต อย่าง Expense Summary และ Cloud Pocket
Expense Summary
หากมองว่าการทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นเรื่องยาก แถมเสียเวลาลงตัวเลขที่มีโอกาสผิดพลาด ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปเมื่อคุณใช้งานฟีเจอร์ Expense Summary เพราะสามารถบันทึกข้อมูลการใช้จ่ายทันที ช่วยให้คุณตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้ง่ายๆ
Cloud Pocket
ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิต เพราะทันทีที่คุณรูดบัตรเครดิตไป ก็สามารถแบ่งเงินสดบางส่วนใส่เอาไว้ใน Cloud Pocket เพื่อเตรียมจ่ายชำระหนี้ได้ทุกเมื่อ และถ้าใครมีหนี้หลายก้อน ก็ไม่ต้องกังวล เพราะ Cloud Pocket มาพร้อมกับฟังก์ชันสร้างกระเป๋าเงิน เพราะใน 1 บัญชี สามารถแบ่งกระเป๋าเงินได้หลายใบทำให้คุณบริหารหนี้คล่องตัวขึ้น เช่น กระเป๋าหนี้บ้าน หรือกระเป๋าหนี้รถยนต์ เป็นต้น
และเมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิต ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมเพราะ Cloud Pocket มีฟังก์ชันตั้งค่าโอนเงินล่วงหน้าอัตโนมัติ ช่วยให้คุณไม่ต้องเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้
ติดหนี้บัตรเครดิตแก้ไม่ยาก ขอเพียงตั้งใจ และสร้างวินัยทางการเงินที่ดี
การแก้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้จักวิธีการบริหารเงินที่ถูกต้อง เช่น ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย, เก็บเงินก่อนใช้, รูดบัตรเครดิตเท่าที่จำเป็น และชำระเต็มวงเงินไม่ใช่แค่จ่ายขั้นต่ำ ก็สามารถปิดหนี้บัตรเครดิตได้แล้ว
หากสนใจตัวช่วยในการออมเงิน เพื่อแก้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิต พร้อมมีเงินออมเตรียมพร้อมสู่อนาคต ไม่ควรพลาดกับแอปพลิเคชัน MAKE by KBank ที่สมัครง่าย รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android แถมเพียงฝากเงินเข้าไป ก็ให้ผลตอบแทนสูงถึง 1.5 % ต่อปีอีกด้วย!