บริหารเงินในครอบครัวอย่างไร ให้เก็บเงินซื้อบ้านได้สำเร็จ

การเก็บเงินซื้อบ้านถือเป็นเป้าหมายสำคัญของหลาย ๆ ครอบครัวที่ตั้งเอาไว้เพื่อความสำเร็จหนึ่งในชีวิต ดังนั้นเรื่องของ วิธีบริหารเงินในครอบครัว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด อย่าลืมว่าบ้านหลังหนึ่งราคาไม่ใช่น้อย ๆ และต้องผ่อนชำระกันยาวหลัก 10 ปี หากวางแผนไม่ดีอาจนำมาซึ่งปัญหาอีกไม่รู้จบ ครอบครัวไหนอยากรู้สูตรออมเงินดี ๆ เพื่อช่วยให้มีบ้านสมใจมาเรียนรู้วิธีเหล่านี้กันเลย พร้อมแนะนำแอปออมเงินชั้นยอดอย่าง MAKE by KBank

วิธีบริหารเงินในครอบครัว เก็บเงินซื้อบ้านไม่ยากเลย

1. วางเป้าหมายในการซื้อบ้านให้ชัดเจน

คนในครอบครัวที่มีส่วนร่วมในการอยู่อาศัยและการซื้อบ้านต้องมาพูดคุยปรึกษาหารือถึงความเหมาะสมในการเลือกซื้อบ้านสักหลังกันก่อน ปกติแล้วก่อนซื้อต้องมีเรื่องของเงินดาวน์ซึ่งมักอยู่ประมาณ 15-20% ของราคาบ้านทั้งหมด จากนั้นก็จะมีเงินผ่อนรายเดือนเข้ามาอีก ซึ่งส่วนใหญ่หากคุณไม่มีหนี้สินอะไรก็สามารถผ่อนชำระต่อเดือนได้ราว 50% ของรายรับทั้งหมด แต่ถ้ามีหนี้รถ หนี้บัตรเครดิต หรือภาระค่าใช้จ่ายเยอะ การผ่อนชำระต่อเดือนควรอยู่ราว 20-30% ของรายรับ หากคนผ่อนมี 2 คน ก็นำรายรับมาคำนวณตามแนวทางเบื้องต้นนี้เพื่อเลือกราคาบ้านที่เหมาะสม แล้วก็เริ่มบริหารเงินในครอบครัวตามแผนนี้ได้เลย

2. ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออกไปบ้าง

ในการเก็บเงินซื้อบ้านสักหลังต้องเข้าใจว่ามันไม่ได้มีแค่ค่าผ่อนชำระรายเดือนอย่างเดียว เอาแค่เงินดาวน์กว่าจะได้ตามที่สถาบันการเงินกำหนดก็ไม่ใช่ง่าย ๆ ไหนจะเรื่องค่าประกันบ้าน ค่าทำสัญญา ค่าดำเนินการอื่น ๆ เฟอร์นิเจอร์ ค่าเดินทาง และอีกสารพัด ดังนั้นการลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออกบ้าง เช่น เงินช้อปปิ้งรายเดือน ค่าอาหารมื้อหรูกับเพื่อนฝูง ฯลฯ แล้วนำเงินที่เหลือไปใช้ส่วนตรงนี้จะช่วยเซฟเงินได้อย่างดีเยี่ยม จึงถือเป็นอีกสูตรออมเงินที่น่าสนใจมากเลย

3. มีบัญชีแยกสำหรับเก็บเงินส่วนนี้โดยเฉพาะ

การมีบัญชีกลางต่างหากจะช่วยให้แต่ละคนมั่นใจว่าเงินถูกโอนเข้ามาด้วยจำนวนเงินตามกำหนดเอาไว้ ไม่มีการลืมเกิดขึ้น ซึ่งอาจเปิดบัญชีคู่แยกไว้ต่างหากก็ไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับใครที่เบื่อความวุ่นวายจะเลือกใช้งาน MAKE by KBank แอปออมเงินก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไฮไลท์ของแอปนี้ต้องยกให้กับฟีเจอร์ Cloud Pocket ให้คุณแบ่งกระเป๋าเงินออกไม่จำกัด สร้างกระเป๋ารายจ่ายและเงินเก็บแยกประเภทเอาไว้เลย เมื่อมีรายรับเข้ามาก็แยกเงินออกตามกระเป๋าต่าง ๆ ที่วางแผนเอาไว้ ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นกระเป๋าสำหรับเก็บเงินซื้อบ้านด้วยก็ไม่มีปัญหา โดยคุณยังสามารถดึงคนที่จะผ่อนบ้านร่วมกันมาไว้ในกระเป๋าเงินดังกล่าว แล้วจัดการแจ้งเตือนให้เก็บเงินในกระเป๋านี้ทุกวันได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลาเปิดบัญชีใหม่ให้ยุ่งยากด้วย

มากไปกว่านั้นแอปนี้ยังมีฟีเจอร์ Chat Banking ให้การเช็กรายการโอนเงินเข้า-ออกย้อนหลังเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถแปะสลิปพร้อมแจ้งรายละเอียดการโอนได้ทันที ไม่ต้องส่งผ่านโปรแกรมใดให้ยุ่งยาก เมื่อย้อนกลับไปดูก็รู้เลยว่าใครจ่ายหรือยังไม่จ่ายเดือนไหนบ้าง สะดวกและเที่ยงตรงสุด ๆ หรือในกรณีเป็นคนในบ้านเดียวกันกลัวว่าคนอื่นจะลืมโอนเงินเข้าก็สามารถแจ้งเตือนด้วย Money Request เรียกเก็บบิลตามรายการที่ระบุ ไม่ต้องทวงเองให้ยุ่งยาก และถ้าทุกคนในแอป MAKE พร้อมอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันก็สามารถโอนเงินด้วย Pop Pay ใช้แค่ Bluetooth เท่านั้น นี่คือความพิเศษของการมีแอปออมเงินชั้นยอดเพื่อช่วยให้คุณสามารถบริหารเงินในครอบครัวได้ง่ายดายมากขึ้น มีบ้านของตนเองตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และเหนือสิ่งอื่นใดไม่ต้องมาทะเลาะกันเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อีกด้วย

4. มีปัญหาเรื่องเงินต้องคุยกันทันที

เป็นเรื่องปกติที่บางคนอาจเจอกับภาวะชักหน้าไม่ถึงหลังด้วยปัจจัยส่วนตัวใด ๆ ก็ตาม หากคุณรู้ว่าตนเองกำลังเจอกับปัญหานี้อยู่ส่งผลให้เงินผ่อนบ้านอาจไม่ตรงตามกำหนดที่วางกันไว้ อย่าเก็บงำหรือไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาจ่ายทันที ควรมีการพูดคุยให้เข้าใจถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ช่วยกันคิดวิธีแก้ไข หาสูตรออมเงินใหม่ ๆ ที่จะจัดการปัญหาทีละเรื่องให้ผ่านพ้นด้วยดี เชื่อว่านี่ไม่ใช่สิ่งยากเกินไปแน่ถ้าทุกคนตั้งใจและช่วยเหลือกัน

5. โปะเงินผ่อนบ้านด้วยสัดส่วนที่เหมาะสม

ถ้าต้องการผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น การโปะเงินก้อนคือวิธียอดนิยม แต่เมื่อบ้านหลังนี้ไม่ได้เป็นเจ้าของคนเดียวก็ควรมีการโปะเงินตามสัดส่วนที่เหมาะสม หากไม่แน่ใจก็เลือกโปะเพิ่มเติมราว 50-100% ของจำนวนเงินงวดผ่อนต่อเดือน แต่ถ้าใครสมัครใจอยากจ่ายมากกว่านั้นก็ไม่มีปัญหา แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ทุกคนรับได้ และไม่ใช่การเอาเปรียบคนอื่น

นี่ถือเป็น 5 วิธีบริหารเงินในครอบครัวอย่างง่าย ๆ สำหรับคนที่ตั้งเป้าเก็บเงินซื้อบ้านสักหลังให้สำเร็จ นอกจากสูตรออมเงินชั้นดีแล้ว ตัวช่วยอย่าง MAKE by KBank แอปออมเงินสุดปังก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญกับเรื่องนี้ไม่แพ้กัน แถมตอนนี้ยังมี ระบบ Biometric Login สแกนลายนิ้วมือหรือสแกนใบหน้าเท่านั้น ดาวน์โหลดมาใช้งานกันได้เลย ไม่ผิดหวังแน่