วางแผนแต่งงานอย่างไรให้งบไม่บาน Ver. ทำตามได้ทุกคู่
MAKE by KBank
20 ส.ค. • 5 min read

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม คู่รักหลายคู่ก็เลือกที่จะมั่นหมายและเดินเคียงคู่กันในชีวิตหลังจากนี้ด้วยการแต่งงาน และเพื่อให้วันสำคัญเป็นไปอย่างราบรื่น การวางแผนแต่งงานจึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างมาก ที่สำคัญที่สุดคือ งบประมาณต้องไม่บานปลาย เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่คู่รักควรคำนึงถึงในการวางแผนงานแต่ง
Checklist วางแผนแต่งงาน ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง
-
Timeline และรายการสิ่งที่ต้องทำ
เริ่มต้นวางแผนแต่งงานด้วยการกำหนดภาพรวมของงาน ซึ่งจะช่วยให้เห็นลำดับของสิ่งที่ต้องทำตรงกัน
- วันแต่งงาน: แนะนำให้กำหนดวันแต่งล่วงหน้าอย่างน้อย 6-12 เดือน
- จำนวนแขก: กำหนดจำนวนแขกที่แน่นอน เพราะจะส่งผลต่อการเลือกสถานที่และค่าอาหาร
- สถานที่: เลือกสถานที่โดยคำนึงถึงจำนวนแขก ความสะดวกในการเดินทาง และลักษณะของงาน
- พิธีการต่าง ๆ: พิจารณาว่าจะจัดพิธีแบบใดบ้าง เช่น พิธีสงฆ์, พิธีสู่ขอ, พิธีหมั้น หรือพิธีหลั่งน้ำสังข์ ซึ่งแต่ละพิธีจะมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณที่แตกต่างกัน
- พิธีสงฆ์/สู่ขอ: ประมาณ 5,000 - 15,000 บาท
- พิธีหมั้น/หลั่งน้ำสังข์: ประมาณ 20,000 - 50,000 บาท
- งานเลี้ยงฉลอง: ประมาณ 1,000 - 3,000 บาทต่อหัว
- องค์ประกอบในงานแต่ง: วางแผนในส่วนของอาหาร การตกแต่ง และดนตรีหรือการแสดง โดยบางสถานที่จัดงานอาจมีบริการเสริมเหล่านี้ให้ด้วย
- การ์ดเชิญและของชำร่วย: เลือกดีไซน์และสไตล์ให้เข้ากับธีมงาน เช่น หากเป็นงานแต่งในสวน ควรมีของชำร่วยเป็นงานคราฟต์หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติ โดยควรคำนึงถึงงบประมาณในการผลิต-จัดซื้อและจำนวนแขกด้วย
-
การเตรียมตัวของคู่บ่าวสาว
วางแผนและจัดสรรงบประมาณสำหรับส่วนที่เกี่ยวกับบ่าวสาวโดยตรง เช่น
- ชุดแต่งงาน: มีให้เลือกตั้งแต่แบบเช่าไปจนถึงตัดใหม่
- การแต่งหน้าทำผม: พิจารณาสไตล์ที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับชุดและพิธีการในแต่ละช่วงได้
- ถ่ายพรีเวดดิ้ง: มีหลายรูปแบบ เช่น การถ่ายเอง, การถ่ายในสตูดิโอ, หรือการถ่ายนอกสถานที่
-
วางงบประมาณ
เพื่อให้การวางแผนแต่งงานแบบประหยัดเป็นไปได้จริง ควรจัดทำตารางสรุปงบประมาณแบบแยกส่วน ซึ่งช่วยให้เห็นจำนวนเงินเป้าหมายได้
- ทำตารางงบประมาณ: ระบุค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ของทุกรายการแบบแยกเป็นส่วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าสถานที่ อาหาร หรือชุดแต่งงาน
- คำนวณเงินที่ต้องเก็บต่อเดือน: เมื่อเห็นจำนวนเงินเป้าหมายแล้ว สามารถคำนวณระยะเวลาและเงินที่ควรเก็บต่อเดือนได้ สามารถอ้างอิงจากตารางแนะนำการเก็บเงินสำหรับการวางแผนแต่งงานในภาพประกอบได้เช่นกัน
-
กำหนดว่า ใครรับผิดชอบส่วนไหน
เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือตกหล่น ควรวางแผนแต่งงานด้วยการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เช่น
- เจ้าบ่าว/เจ้าสาว: รับผิดชอบการวางแผนงานแต่ง ประสานงาน สถานที่ การเลือกชุด
- ครอบครัว: ช่วยดูแลรายชื่อแขกผู้ใหญ่ การจัดเตรียมพิธีการตามประเพณี
อยากคุมงบจัดงานแต่ง ต้องวางแผนอย่างไร ?

การวางแผนแต่งงานแบบประหยัดที่สมบูรณ์แบบขึ้นอยู่กับการคุมงบประมาณเป็นอย่างมาก มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยที่งานยังคงออกมาน่าประทับใจ
- วางไทม์ไลน์ล่วงหน้า: การวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 6-12 เดือน จะช่วยให้มีเวลาในการศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบราคาจากผู้ให้บริการหลาย ๆ เจ้า และได้ตัวเลือกที่ดีที่สุดในราคาที่เหมาะสม
- เลือกจัดงานวันธรรมดาหรือช่วงนอกฤดูกาล: สถานที่จัดงานแต่งงานและผู้ให้บริการต่าง ๆ มักมีราคาพิเศษสำหรับวันธรรมดาหรือช่วง Low Season ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดงบได้มาก
- ลอง DIY ของตกแต่งและของชำร่วย: การลงมือทำของตกแต่งหรือของชำร่วยด้วยตัวเอง นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความใส่ใจและเรื่องราวพิเศษให้กับงานของคุณได้อีกด้วย
ใช้งบงานแต่งอย่างไรให้เป๊ะ งบไม่พัง มีเงินเหลือ

เพื่อช่วยจัดการงบงานแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่บานปลาย ลองใช้เทคนิคเหล่านี้ร่วมกับแอปพลิเคชันจัดการเงินอย่าง MAKE by KBank ทำให้วางแผนแต่งงานและบริหารการเงินได้อย่างง่ายดาย และไม่บานปลายจนเหลือเก็บหลังจบงาน
- กำหนดงบรวมและจัดลำดับความสำคัญ
ตั้งจำนวนเงินเป้าหมายให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน จากนั้นแบ่งงบประมาณตามหมวดหมู่เป็นเปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสม (เช่น จำนวนเงินเป้าหมาย 200,000 บาท แบ่งเป็นค่าสถานที่ 30%, ค่าชุดแต่งงาน 20%, ค่าอาหาร 25% ) โดยแบ่งสัดส่วนให้รายการจำเป็นก่อน แล้วจึงจัดสรรงบส่วนที่เหลือสำหรับส่วนอื่น ๆ
- ใช้บริการออร์แกไนเซอร์บางส่วน
เช่น ทีมพิธีการหรือทีมวางแผนงานแต่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดภาระหน้าที่และควบคุมงบประมาณได้ดี อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบรายละเอียดการคิดราคาให้ถี่ถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงเกินความต้องการ
- แบ่งงบประมาณเป็นหมวดหมู่
- ค่าใช้จ่ายที่รับผิดชอบเอง: ใช้ Cloud Pocket เพื่อแบ่งงบออกเป็นกระเป๋าตังค์ย่อย ๆ เก็บเงินตามหมวดหมู่ เช่น ค่าสถานที่ ค่าชุดแต่งงาน ซึ่งทำให้แยกเงินเก็บออกจากเงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันได้ รวมถึงเห็นจำนวนเงินเป้าหมายและเงินที่เก็บได้ในปัจจุบัน
- ค่าใช้จ่ายที่ร่วมกัน: ใช้ Cloud Pocket ร่วม ซึ่งเปรียบเสมือนกระเป๋าตังค์กองกลาง ที่ช่วยให้คู่รักสามารถตั้งเป้าหมายการเก็บเงิน เช็กสถานะทางการเงิน และจัดการการใช้จ่ายร่วมกันได้ง่าย ๆ
Cloud Pocket ร่วม ในแอปพลิเคชัน MAKE by KBank ไม่ได้เป็นแค่ตัวช่วยคุมงบสำหรับการวางแผนแต่งงานเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับคู่รักในการสร้างและบรรลุเป้าหมายทางการเงินร่วมกันในอนาคต เช่น การชำระค่าบ้าน ค่าเล่าเรียนลูก หรือเป้าหมายอื่น ๆ เพื่อให้การเดินเคียงคู่กันในชีวิตหลังจากนี้ราบรื่นและลงตัว

กลับไปหน้าแรก