สแกนเพื่อดาวน์โหลด
MAKE logo
MAKE logo

ผ่อนบ้านไม่ไหว ทำไงดี? วิธีตั้งหลักปิดหนี้บ้านก่อนโดนยึด

# คำถามการเงินยอดฮิต

can't afford mortgage payments.png

การซื้อหรือผ่อนบ้านถือเป็นภาระหนี้ระยะยาวที่กินเวลาตั้งแต่ 15–30 ปี โดยเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะผ่อนบ้านไม่ไหว เราเองยังมีทางเลือกที่สามารถทำเพื่อยังรักษาบ้านไว้ ไม่ว่าจะเป็นการขอลดอัตราดอกเบี้ย การขอรีไฟแนนซ์ หรือการปล่อยเช่า

บทความนี้จะพาไปเรียนรู้ว่า ในกรณีที่ผ่อนบ้านไม่ไหว ต้องทำอย่างไร คืนธนาคารได้ไหม และมีทางออกเบื้องต้นแบบไหนบ้างเพื่อให้สามารถกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง

ทำไมหลายคนถึงผ่อนบ้านไม่ไหว?

ภาระการผ่อนบ้านถือเป็นหนี้ระยะยาว ซึ่งระหว่างทางก็อาจมีหลายปัจจัยที่ทำให้ผ่อนบ้านไม่ไหว ทั้งดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น เศรษฐกิจที่ไม่มั่นคง หรือรายได้ที่สะดุด โดยสาเหตุทำให้คนไทยส่วนใหญ่ผ่อนบ้านไม่ไหว มีดังนี้

ภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น รายได้สุทธิที่ลดลง

เรื่องของค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผ่อนบ้านไม่ไหว ด้วยสภาพเศรษฐกิจ สภาวะเงินเฟ้อ และค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่าอาหารและค่าที่พัก กลุ่มผู้ซื้อบ้านที่เป็นมนุษย์เงินเดือนจึงรับผลกระทบ เนื่องจากมีภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น แต่อัตราเงินเดือนยังเท่าเดิม และกลุ่มคนทำอาชีพอิสระหรือมีรายไม่ได้แน่นอน ก็อาจมีรายได้ลดลงเช่นกัน

อัตราดอกเบี้ยลอยตัว

หลายคนเริ่มผ่อนบ้านไม่ไหวเนื่องจากไม่ได้เตรียมพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดยเมื่อผ่อนบ้านมาจนพ้นช่วงโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษใน 2–3 ปีแรกไปแล้ว ธนาคารจะปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ทำให้ค่างวดที่ต้องจ่ายทุกเดือนสูงขึ้น จนอาจทำให้ผ่อนไม่ไหวในที่สุด

มีหนี้สินประเภทอื่นๆ ร่วมด้วย

หลายคนนอกจากมีภาระการผ่อนบ้านแล้วยังมีภาระอื่น ๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนรถ การซื้อของใหญ่ หรือสินเชื่ออื่น ๆ ซึ่งข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (2565) ระบุว่า คนไทยมีหนี้จากสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) สูงถึง 39% ของหนี้ในครัวเรือน ตามมาด้วยหนี้บัตรเครดิตที่สูงถึง 29%

โดยหนี้ที่มีอาจเป็นหนี้เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อรวมกันแล้วอาจกลายเป็นหนี้ก้อนโตที่ทำให้เราเสี่ยงจะผ่อนบ้านไม่ไหวได้

เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

ชีวิตมักมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น การถูกเลิกจ้างกระทันหัน อุบัติเหตุ การเจ็บป่วย ภัยพิบัติ หรือการเสียชีวิตของคนที่เป็นเสาหลักของครอบครัว โดยเหตุการณ์เหล่านี้อาจกระทบต่อการเงินของเราจนทำให้ผ่อนบ้านไม่ไหว การวางแผนสำรองไว้ก่อนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการตัดสินใจซื้อบ้าน

ผ่อนบ้านไม่ไหว ขายคืนธนาคารได้ไหม?

โดยหลักการแล้ว หากผ่อนบ้านไม่ไหว เราไม่สามารถขายบ้านคืนให้ธนาคารได้ เนื่องจากธนาคารมีสถานะเป็นเจ้าหนี้จึงไม่สามารถซื้อบ้านคืนได้ แต่ก็อาจมีช่องทางที่ช่วยแก้ปัญหาร่วมกัน เช่น การขายฝากหรือการขายบ้านเพื่อชำระหนี้โดยมีธนาคารเป็นคนกลาง ในกรณีนี้ หากเงินจากการขายบ้านมากกว่ายอดหนี้ เราก็จะได้ส่วนต่างและไม่ต้องชำระต่อ แต่หากขายบ้านได้ต่ำกว่าหนี้ เราก็ยังจะต้องชำระในส่วนที่เหลือต่อไป

ผ่อนบ้านไม่ไหว ควรปล่อยให้ธนาคารยึดหรือไม่

เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว เบื้องต้นควรรีบปรึกษาธนาคารก่อนและไม่ควรปล่อยให้บ้านถูกยึด เพราะการถูกยึดสินทรัพย์ส่งผลเสียรุนแรงต่อเครดิตทางการเงินของเรา หรือติดเครดิตบูโรนั่นเอง ทำให้การขอสินเชื่อเป็นไปได้ยากในอนาคต

ที่สำคัญ การปล่อยให้บ้านถูกยึดโดยธนาคาร ไม่ได้แปลว่า หนี้ของเราจะหมดไป เพราะเมื่อธนาคารนำบ้านไปขายทอดตลาด ซึ่งมักขายในราคาต่ำกว่าปกติ เรายังคงต้องรับผิดชอบหนี้ส่วนที่หลือหากราคาขายบ้านต่ำกว่ายอดหนี้

ไม่อยากให้ธนาคารยึด แต่ผ่อนบ้านไม่ไหว ทำยังไงได้บ้าง?

can't afford mortgage payments_01.png เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะผ่อนบ้านไม่ไหว เราเองยังมีทางเลือกที่สามารถทำได้เพื่อให้ภาระผ่อนเบาลง เช่น การขอลดอัตราดอกเบี้ย หรือการขอรีไฟแนนซ์

ขอคำปรึกษาจากธนาคารเพื่อหาทางออก

การติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาจากธนาคารและหาทางออกเป็นสิ่งแรกที่ควรทำทันทีเมื่อรู้ตัวว่าผ่อนบ้านไม่ไหวแล้ว ธนาคารจะมีทางออกให้หลายทาง เช่น

  • ขอลดอัตราดอกเบี้ย

ถือเป็นวิธีแรกที่ควรลองเมื่อเริ่มรู้สึกว่าภาระผ่อนบ้านหนักเกินไป และเป็นขั้นตอนที่ธนาคารสามารถพิจารณาได้ค่อนข้างรวดเร็ว

  • ขอขยายระยะเวลาการชำระหนี้

เป็นการยืดระยะเวลาการกู้ออกไปอีกซึ่งช่วยให้ค่างวดน้อยลง

  • ขอพักชำระหนี้

เมื่อเจอปัญหาหนัก ๆ จนไม่สามารถจ่ายค่างวดได้ เราสามารถขอพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยชั่วคราวได้ประมาณ 3–6 เดือน โดยในช่วงเวลาที่พักชำระ ธนาคารจะยังคงคิดดอกเบี้ยตามปกติ และดอกเบี้ยที่ค้างชำระอาจถูกเรียกเก็บในภายหลัง

  • ขอชำระค่าบ้านต่ำกว่างวดปกติ

บางธนาคารอาจพิจารณาให้ลูกหนี้ชำระงวดน้อยกว่าปกติในระยะเวลาชั่วคราว เช่น 6–12 เดือนหรือไม่เกิน 2 ปี โดยวิธีนี้อาจส่งผลให้ระยะเวลาผ่อนชำระยาวขึ้น และดอกเบี้ยที่ต้องชำระรวมตลอดอายุสัญญาอาจเพิ่มขึ้นด้วย

  • ขอผ่อนผันหนี้ที่ค้างชำระ

ในกรณีที่เคยค้างชำระค่างวดจนกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ อาจจะเจรจาขอผ่อนผันหนี้ส่วนที่ค้างชำระ โดยอาจจะแบ่งชำระเป็นก้อนเล็ก ๆ ทุกเดือน หรืออาจจะแบ่งเป็นก้อนใหญ่ ชำระเป็นงวด ตามที่ตกลงกับธนาคาร

  • ขอปรับโครงสร้างหนี้

พูดคุยกับธนาคารเพื่อปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางอย่างให้เหมาะกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้

การรีไฟแนนซ์และการรวมหนี้

การรีไฟแนนซ์ (Refinance) คือการขอสินเชื่อจากธนาคารแห่งใหม่เพื่อนำไปปิดยอดหนี้บ้านเดิม ข้อดีคืออาจได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำลง หรือวงเงินกู้สูงขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน หรือสามารถใช้เงินที่เหลือไปปิดหนี้อื่น ๆ ได้

นอกจากการรีไฟแนนซ์แล้ว การรวมหนี้ (Debt Consolidation) ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ผ่อนบ้านไม่ไหว ซึ่งคือ การรวมยอดหนี้ที่มีทั้งหมดให้เป็นยอดเดียวแล้วยื่นกู้กับธนาคารใหม่ วิธีการนี้จะช่วยในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง และสามารถจัดการการเงินได้ง่ายขึ้นในแต่ละเดือน

การปล่อยขายบ้าน หรือการปล่อยบ้านให้เช่า

แทนที่จะปล่อยให้ธนาคารยึดบ้านแล้วนำไปขายทอดตลาด เราสามารถเลือกปล่อยขายบ้านเองเพื่อนำเงินมาปิดหนี้ได้ แต่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากธนาคารก่อน โดยทั่วไป ธนาคารมักพิจารณาให้ปล่อยขายบ้านได้ หลังผ่อนมาแล้ว 6 เดือน–1 ปี โดยยิ่งผ่อนนาน ยอดหนี้คงเหลือยิ่งน้อย

แต่หากยังอยากรักษาบ้านไว้ การปล่อยเช่าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว แต่ก็ต้องได้รับความยินยอมจากธนาคารก่อนเช่นกัน

ตั้งหลักการเงินใหม่ ยังไงให้ผ่อนบ้านไหวอีกครั้ง

ชีวิตเราสามารถตั้งหลักการเงินใหม่ได้ การบริหารจัดการการเงินที่ดี จะช่วยให้เรามีทางออกและกลับมาผ่อนบ้านไหวอีกครั้ง

วางแผนให้ชัด หนี้ก้อนไหนต้องจัดการก่อน

เมื่อมีหนี้สินหลายประเภท เราจำเป็นต้องสร้างแผนการจัดการหนี้ให้ดีเสียก่อน โดยทั่วไปมี 3 แนวทางที่นิยมใช้ ได้แก่

  • ปิดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน หรือ Avalanche Method ควรจะวิเคราะห์หนี้แต่ละตัวและลำดับหนี้ที่มีดอกเบี้ยมากที่สุด ตั้งเป้าปิดหนี้ตัวนี้ให้ได้ก่อน เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หนี้ส่วนบุคคล เป็นต้น แล้วจึงทยอยปิดหนี้ตัวอื่นๆ ตามลำดับ
  • ปิดหนี้ก้อนเล็กที่สุดก่อน หรือ Snowball Method เริ่มจากจัดการหนี้ก้อนเล็กๆ ก่อน แล้วจึงทยอยไปจัดการกับหนี้ที่ก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ วิธีนี้จะช่วยให้มีกำลังใจในการจัดการหนี้มากขึ้น และยังทำให้รู้สึกว่าสามารถเอาชนะหนี้ได้ มีแรงในการชำระหนี้ต่อไป

ตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ชัด วัดผลได้

เมื่อเริ่มมีการจัดระเบียบวางแผนทางการเงินแล้ว ควรเริ่มตั้งเป้าหมายทางเงินให้ชัดเจน สามารถวัดผลได้ เพื่อแก้เครดิตเสียจากการผ่อนบ้านไม่ไหว และเป็นการวางแผนระยะยาวได้ เช่น

  • สรุปรายการหนี้ที่ค้างชำระอยู่ พร้อมรายละเอียดดอกเบี้ยที่ต้องชำระต่อเดือน เพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจนและหาวิธีจัดการที่เหมาะสมได้
  • ชำระหนี้ในแต่ละเดือนให้ตรงเวลาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อเครดิตและไม่ถูกคิดดอกเบี้ย
  • ตั้งเป้าหมายในการจัดการหนี้ภายในกรอบเวลาที่เหมาะสม
  • โฟกัสที่การเคลียร์หนี้ที่มีอยู่เป็นหลัก โดยไม่ควรสร้างหนี้เพิ่มอย่างน้อยในระยะเวลา 1-2 ปี
  • โปะหนี้ เมื่อได้รับเงินก้อนใหญ่ เช่น โบนัส ค่าคอมมิชชั่น หรือเงินพิเศษ เพื่อให้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น

หารายได้เสริม เพิ่มเงินได้หลายทาง

เมื่อมีหนี้เยอะ แต่รายได้ยังคงที่ นอกจากวิธีต่างๆ ในการแก้ปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว ที่ได้กล่าวไปแล้วในบทความนี้ เราควรคิดถึงการเพิ่มเงินรายได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยวิเคราะห์ก่อนว่าตัวเองสามารถทำงานรายได้เสริมในส่วนนอกเวลางานหลักได้อย่างไรบ้าง การหารายได้เสริมมีหลากหลายรูปแบบ เช่น

  • รับงานฟรีแลนซ์
  • งานพาร์ทไทม์
  • ขายของออนไลน์
  • ปล่อยเช่าบ้าน
  • ขายของที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน เช่น ของสะสม ของแบรนด์เนม หรือสินทรัพย์อื่น ๆ

ตั้งงบและจดรายรับ-รายจ่าย

ตั้งหลักการเงินใหม่ ควรเริ่มด้วยการแผนการเงินที่ดี โดยเราควรจัดบประมาณและทำบันทึกรายรับรายจ่าย เพื่อให้เรารู้ทันภาพรวมการเงินของตัวเอง เห็นว่ารายจ่ายส่วนมากอยู่ตรงไหน และส่วนไหนที่สามารถลดหรือประหยัดเพื่อนำเงินมาผ่อนบ้านได้บ้าง

can't afford mortgage payments_02.png

โดยวิธีนี้จะช่วยให้เราบริหารเงินได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพอย่าง แอป MAKE by Kbank กับฟีเจอร์ Cloud Pocket ที่จะช่วยในการแยกกระเป๋าตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

  • แยกเงินตามกระเป๋าทันที ไม่ว่าจะเป็นงวดบ้าน งวดรถ หรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
  • ช่วยลดการใช้จ่ายเกินตัว สร้างวินัยในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
  • มีฟีเจอร์สรุปรายรับรายจ่าย ก ที่ช่วยให้เราติดตามรายจ่ายได้ แบ่งตามหมวดหมูของรายจ่ายที่เราตั้งไว้
  • มีฟีเจอร์ To Do List สามารถจดรายการที่ต้องจ่ายประจำเป็น และมีแจ้งเตือนตามวันทรี่ตามที่เราตั้งไว้ เพื่อไม่ให้พลาดวันครบกำหนดที่สำคัญเช่น วันจ่ายหนี้ วันจ่ายบิล

ปัญหาการผ่อนบ้านไม่ไหว ไม่จำเป็นต้องจบลงที่การยึดบ้าน เรายังมีทางเลือกมากมาย ตั้งแต่ปรึกษาธนาคารจนถึงปล่อยบ้านให้เช่า ขอเพียงเข้าใจสถานะการเงินของตัวเอง มีแผนที่ชัดเจน และมีวินัยในการใช้จ่าย

ให้แอป MAKE by KBank ช่วยจัดระเบียบการเงินของคุณ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้แล้ววันนี้ผ่าน App Store และ Google Play Banner SEO.png

กลับไปหน้าแรก

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ