เทคนิคผ่อนคอนโดเดือนละ 5,000 ฉบับมนุษย์เงินเดือน
มนุษย์เงินเดือนคงมีความฝันเป็นเจ้าของคอนโดสักแห่ง เพราะอยู่ติดกับสถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า, ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ตึกออฟฟิศทำงาน เพื่อหมดปัญหาการเดินทางอันน่าปวดหัวที่ต้องฟันฝ่ารถติด ก่อนไปถึงที่ทำงานทุกวัน
แต่ผู้เริ่มต้นวัยทำงานคงไม่ได้มีเงินมากพอจะผ่อนคอนโดราคาสูง คงสงสัยว่าจะเป็นเจ้าของคอนโดได้จริงหรือ? ด้วยเหตุนี้เราจึงนำเทคนิคผ่อนคอนโดเดือนละ 5,000 มาฝากทุกคน พร้อมแนะนำแอปเก็บเงินที่ช่วยให้บริหารจัดการเงินง่ายขึ้นอีกด้วย
1. ควรมีเงินเดือน 15,000 บาท เป็นต้นไป เพื่อการขอสินเชื่อ 2 ล้าน สำหรับซื้อคอนโดทำเลดี
คอนโดทำเลดีติดรถไฟฟ้าส่วนมากราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาทขึ้นไป หากสงสัยว่าเงินเดือน 15,000 บาท สามารถขอสินเชื่อ 2 ล้าน เพื่อผ่อนคอนโดได้หรือไม่? คำนวณได้จากสูตร
วงเงินขอสินเชื่อ = (DSR*เงินเดือน) - ภาระหนี้อื่นๆ *150
DSR ย่อมาจาก Debt Service Ratio หรืออัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ คำนวณได้จาก
(หนี้สินต่อเดือน/รายได้ต่อเดือน) *100
ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อผ่อนคอนโดเอาไว้ว่า ผู้ขอกู้ควรมีค่า DSR ไม่เกิน 40% เพราะถ้ามากกว่านี้ จะทำให้ภาระทางการเงินมากเกินไป กระทบต่อค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ไม่มีเงินเก็บ เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย
จากสูตรวงเงินขอสินเชื่อข้างต้น หากคุณมีเงินเดือนในระดับต่อไปนี้ และไม่มีหนี้สิน จะขอสินเชื่อได้เท่ากับ
เงินเดือนวงเงินขอสินเชื่อ
15,000 บาท900,000 บาท
20,000 บาท1,200,000 บาท
25,000 บาท1,500,000 บาท
30,000 บาท1,800,000 บาท
35,000 บาท2,100,000 บาท
40,000 บาท2,400,000 บาท
เห็นได้ว่าถ้าต้องการขอสินเชื่อ 2 ล้านบาทขึ้นไป แล้วผ่านการพิจารณาของทางธนาคารแน่นอนควรมีเงินเดือนเป็นอย่างน้อย 35,000 บาท อย่างไรก็ตามขั้นตอนการขอสินเชื่อธนาคารจริงๆ ไม่ได้ดูเพียงรายได้เท่านั้น เพราะยังตรวจสอบไปถึงทรัพย์สินส่วนบุคคล, อาชีพการงาน, ความมั่นคงทางรายได้ ฯลฯ
เราจึงพบเห็นกรณีที่นักธุรกิจรายได้สูงขอสินเชื่อกู้ซื้อคอนโดไม่ผ่าน ส่วนพนักงานประจำรายได้อยู่ที่ 15,000 บาท แต่ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้ เหตุเพราะนักธุรกิจแบกรับความเสี่ยงสูงกว่าพนักงานประจำ ในอนาคตหากเทรนด์ของธุรกิจเปลี่ยนไป และนักธุรกิจหาเงินไม่ได้เท่าเดิม ก็มีความเสี่ยงที่จะชำระหนี้ไม่ได้
ดังนั้นแม้ว่าคุณจะมีเงินเดือน 15,000 บาท ก็สามารถขอสินเชื่อผ่อนคอนโดในวงเงิน 2 ล้านบาทได้ ถ้าธนาคารเห็นว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้มากเพียงพอ
หากมือใหม่ผู้เริ่มต้นผ่อนคอนโดครั้งแรก เข้าใจแล้วว่าที่มาของการคิดวงเงินสินเชื่อเกิดจากอะไร และธนาคารใช้หลักเกณฑ์อะไรบ้างในการปล่อยสินเชื่อ ก็สามารถวางแผนผ่อนคอนโดต่อไปได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินซื้อคอนโดแล้วนั่นเอง
2. เคลียร์หนี้เก่าและตรวจเช็คประวัติการเงินก่อนซื้อผ่อนคอนโด เพื่อขอสินเชื่ออย่างราบรื่น
ก่อนจะขอสินเชื่อผ่อนคอนโดได้ ผู้กู้ควรเคลียร์หนี้เก่าให้เรียบร้อย และไม่ติดเครดิตบูโร ถึงจะมีโอกาสผ่านการพิจารณาของทางธนาคาร และหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เข้มงวดกว่าในอดีตเพราะมีลูกหนี้ผิดนัดชำระจำนวนมาก ประกอบกับดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ขอสินเชื่อต้องจ่ายภาระดอกเบี้ยมากกว่าเดิมด้วย
หากลูกหนี้ไม่สามารถเคลียร์หนี้เก่าได้หมด แล้วมาขอสินเชื่อ วงเงินที่จะขอได้ก็ย่อมลดลง เช่น ถ้ามีเงินเดือน 20,000 บาท เป็นหนี้บัตรเครดิต 3,000 บาท หนี้รถมอเตอร์ไซค์ 4,000 บาท ดังนั้นวงเงินกู้ขั้นต่ำที่ทางธนาคารจะพิจารณาปล่อยสินเชื่อเพื่อผ่อนคอนโด เท่ากับ
วงเงินขอสินเชื่อ = (DSR*เงินเดือน) - ภาระหนี้อื่นๆ *150
[(40%*20,000)-(3,000 + 4,000)]*150
150,000 บาท
ซึ่งเงิน 150,000 บาท เป็นจำนวนเงินน้อยเกินกว่าจะซื้อคอนโดมือสองได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นหากต้องการขอสินเชื่อสูงๆ วงเงินล้านขึ้นไป ควรหาทางปิดหนี้เก่าให้หมด เพื่อสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีนั่นเอง
3. วางแผนให้รอบคอบ ประเมินกำลังการผ่อนคอนโดให้เหมาะสม ก่อนขอสินเชื่อ
หลังจากรู้จักกับวิธีการคิดคำนวณวงเงินขอสินเชื่อผ่อนคอนโดกันไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การวางแผนผ่อนรายเดือนอย่างเหมาะสม เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของคอนโดได้อย่างราบรื่น ซึ่งประเมินกำลังการผ่อนได้จากสูตร
ภาระหนี้ผ่อนคอนโดรายเดือน = (รายได้*40%) - ภาระหนี้อื่น
ตัวเลข 40% เป็นเกณฑ์ที่ธปท. กำหนดตามที่กล่าวไปข้างต้น
เช่น นาย D มีเงินเดือน 18,000 บาท ไม่มีหนี้สินอื่น ดังนั้นภาระหนี้ผ่อนคอนโดต่อเดือนของนาย D คือ 18,000 บาท*40% = 7,200 บาท
แต่ถ้าสมมติให้นาย D มีภาระหนี้บัตรเครดิต 4,000 บาท จะได้ว่านาย D มีความสามารถในการผ่อนชำระเหลือเพียง 3,200 บาท เท่านั้น ซึ่งนาย D จะใช้เวลานานกว่าเดิม ถึงผ่อนคอนโดเสร็จ แถมมีความเสี่ยงที่นาย D จะผิดนัดชำระหนี้ด้วย ถ้าเกิดเดือนไหนรูดบัตรเครดิตมากเกินไป
4. รู้จักกับสูตรคำนวณว่าผ่อนคอนโดเดือนละ 5,000 บาท จะได้คอนโดราคาเท่าไหร่
ถ้าสงสัยว่าผ่อนคอนโด 5,000 บาท เป็นไปได้จริงหรือ? คำตอบคือเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมือสองที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท หรือล้านต้นๆ และธนาคารมักจะจัดโปรโมชันต่างๆ เช่น โปรผ่อน 2,000 บาท นาน 3 ปี ทำให้การผ่อนคอนโดเดือนละ 5,000 บาทไม่ใช่เรื่องยาก
สูตรผ่อนคอนโดเดือนละ 5,000 คือ
วงเงินคอนโดสูงสุด = (ภาระหนี้คอนโด 40%*ของเงินเดือน - ภาระหนี้ทั้งหมด/5,000) * 1,000,000
ดังนั้นจากกรณีนาย D ที่มีเงินเดือน 18,000 บาท และไม่มีหนี้อื่นๆ จะได้วงเงินคอนโดสูงสุดเท่ากับ
[(18,000*40%-0)/5,000] * 1,000,000 = 1,440,000 บาท
แต่ถ้านาย D จ่ายหนี้บัตรเครดิตทุกเดือน เดือนละ 4,000 บาทด้วย วงเงินคอนโดจะเหลือเพียง
[(18,000*40%-4,000)/5,000] * 1,000,000 = 640,000 บาท
5. อย่าลืมเก็บเงินสำรอง กรณีฉุกเฉิน
แม้ว่าการวางแผนผ่อนคอนโดจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่อย่าลืมว่าควรเตรียมพร้อมค่าใช้จ่ายรับมือกับเหตุฉุกเฉินด้วย เพราะหนี้คอนโดเป็นหนี้ระยะยาว ใช้เวลาผ่อนไม่ต่ำกว่า 20 ปี ระหว่างนี้อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นการตกงานกะทันหัน หรือจ่ายค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ
ซึ่งจำนวนเงินเพื่อเตรียมรับมือกับกรณีฉุกเฉินที่ควรมี เท่ากับรายได้ 6 เดือนรวมกัน หรือมีเงินแสน เป็นอย่างน้อย เช่น ทำงานประจำเดือนละ 20,000 บาท ดังนั้นเงินสำรองฉุกเฉินที่ควรมี คือ 120,000 บาท เพื่อมั่นใจได้ว่าจะมีเงินใช้จ่ายระหว่างหางานใหม่
ด้วยเหตุนี้หากกำลังมองหาผู้ช่วยวางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพ ไม่ควรพลาดกับ แอป MAKE by KBank ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เด็ดให้การจัดการเงินเป็นเรื่องง่ายอย่าง Cloud Pocket และ Expense Summary
แนะนำแอปเก็บเงิน MAKE by KBank
1.Cloud Pocket
หากกำลังผ่อนคอนโดแล้วประสบกับปัญหาแบ่งเงินค่าใช้จ่ายเป็นสัดส่วน เพราะรับมือกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น แถมต้องเก็บเงินเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินด้วย ปัญหาจะหมดไปด้วยฟีเจอร์ Cloud Pocket ที่ให้คุณสร้างกระเป๋าเงินได้ตามต้องการ เช่น กระเป๋าผ่อนคอนโด, กระเป๋าจ่ายค่าบัตรเครดิต, กระเป๋าสำรองฉุกเฉิน ฯลฯ ทำให้คุณบริหารจัดการเงินได้อย่างอยู่หมัด
2.Expense Summary
ถ้ากังวลว่าเดือนนี้ได้จ่ายค่าผ่อนคอนโดไปแล้วหรือยัง? ฟีเจอร์ Expense Summary ได้รวบรวมข้อมูลทุกค่าใช้จ่ายแบบ Real-Time ช่วยตรวจสอบข้อมูลค่าใช้จ่ายแบบย้อนหลัง ทำให้ทราบได้ทันทีว่าหลงลืมจ่ายอะไรไปบ้าง หมดห่วงเรื่องค่าปรับผ่อนคอนโดช้าไปได้เลย
ผ่อนคอนโดเดือนละ 5,000 บาท ต้องซื้อคอนโดราคาเท่าไหร่ ถึงจะไม่เกินตัว
เมื่อทำความเข้าใจแล้วว่าถ้าต้องการผ่อนคอนโด 5,000บาท จะขอวงเงินกู้สูงสุดได้เท่าไหร่? แต่ก็ใช่ว่าขอวงเงินกู้สูงสุดออกมาแล้วจะซื้อคอนโดได้เลย เพราะค่าใช้จ่ายในการผ่อนคอนโดประกอบด้วยเงินต้น+ดอกเบี้ย และคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก กล่าวคือ ถ้าผ่อนน้อยเกินไปเงินต้นจะไม่ลดลง แถมค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นด้วย หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น หรือว่าเกิดการผิดนัดชำระในบางเดือน
ด้วยเหตุนี้เราจำเป็นต้องคำนวณราคาคอนโดที่เหมาะสม ไม่ทำให้เราใช้จ่ายเกินตัวเกินไป ด้วยสูตร
(จำนวนเงินที่ต้องการผ่อนชำระต่อเดือน*1,000,000) ÷ 8,000
หากสงสัยว่าตัวเลข 8,000 มาจากไหน? ผู้เก็บเงินซื้อบ้านคงรู้จักกับสูตรล้านละ 7,000 เป็นอย่างดี เพราะประมาณการเบื้องต้น เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยในระยะเวลา 30 ปี ได้อย่างแม่นยำ แต่ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นเช่นนี้ หลายธนาคารอัตราดอกเบี้ยผ่อนคอนโดเกินว่า 7% แล้ว การเปลี่ยนเป็นสูตรล้านละ 8,000 จะช่วยให้คุณผ่อนคอนโดได้ไม่เกินตัวนัก
จะได้ว่า
(5,000*1,000,000)÷ 8,000
= 625,000 บาท
ดังนั้นถ้าต้องการผ่อนคอนโดเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 30 ปี แบบไม่เกินตัว ควรเลือกซื้อคอนโด
ราคาประมาณ 625,000 บาท
ดาวน์โหลด MAKE by KBank ตัวช่วยวางแผนผ่อนคอนโด ได้ง่ายๆ
จะเห็นได้ว่าการผ่อนคอนโด 5,000 บาท ในฉบับของมนุษย์เงินเดือนไม่ยากอย่างที่คิด ถ้ารู้จักวางแผนการเงิน และซื้อคอนโดในราคาที่จับต้องได้ ไม่ทำให้ตนเองเหนื่อยจนเกินไป จนส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง หรือค่าน้ำ-ค่าไฟ
หากต้องการผู้ช่วยให้จัดการเงินได้ง่ายขึ้นไม่ควรพลาดกับแอป MAKE by KBank ที่นอกจากจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ Cloud Pocket และ Expense Summary ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น Shared Cloud Pocket ทำให้คุณบริหารเงินกับคนในครอบครัวเป็นเรื่องง่าย เป็นต้น
ดังนั้นอย่ารอช้า! ดาวน์โหลด MAKE by KBank เพื่อช่วยผ่อนคอนโดตั้งแต่วันนี้ ผ่านช่องทาง App Store และ Play Store แถมเพียงแค่ฝากเงินเข้าไปยังได้ผลตอบแทนสูงถึง 1.5% ต่อปีอีกด้วย