สแกนเพื่อดาวน์โหลด
MAKE logo
MAKE logo

ใครเป็นผู้รับผลประโยชน์ได้บ้าง? เช็กให้มั่นใจก่อนทำประกันชีวิต

# เรื่องควรรู้เกี่ยวกับประกัน

Who can be named as a life insurance beneficiary.png การเลือกทำประกันชีวิตของเรา ไม่เพียงแค่ช่วยลดหย่อนภาษี แต่ยังช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับคนที่เราแคร์ในเวลาที่เราจากไปด้วย แต่คำถามที่หลายคนสงสัยก็คือ ทำประกันชีวิตแล้ว ผู้รับประโยชน์เป็นใครได้บ้าง?

ในบทความนี้ เรามาไขข้อสงสัยกันว่า ผู้รับผลประโยชน์จากประกันชีวิตมีเกณฑ์อย่างไร จำกัดอายุไหม ไม่ใช่ญาติจะรับประโยชน์ได้ไหม และถ้าอยากเปลี่ยนชื่อผู้รับประโยชน์ สามารถทำได้หรือเปล่า

ทำความเข้าใจความหมายของ “ผู้รับผลประโยชน์ในประกันชีวิต” หมายถึงอะไร?

ผู้รับผลประโยชน์ในประกันชีวิต หมายถึง ผู้ที่รับค่าสินไหมเมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิต โดยอาจสามารถเป็นญาติ เป็นผู้ที่มีความเชื่อมโยงทางกฎหมาย หรือเป็นหน่วยงานเพื่อการกุศลก็ได้

ผู้รับผลประโยชน์ มีได้กี่คน?

เราสามารถใส่ชื่อผู้รับผลประโยชน์จากประกันชีวิตได้ตามความต้องการ จะเป็น1 คน หรือมากกว่า 1 คนก็ได้ และสามารถกำหนดสัดส่วนของค่าผลประโยชน์แต่ละคนจะได้รับได้ด้วย ซึ่งหากไม่ระบุสัดส่วนตรงนี้ ผู้รับประโยชน์ทุกคนก็จะได้รับผลประโยชน์ในจำนวนเท่ากัน

ผู้รับผลประโยชน์ เป็นใครได้บ้าง?

เราสามารถเลือกผู้รับผลประโยชน์ประกันชีวิตเป็นใครก็ได้ที่เราต้องการ ไม่มีข้อจำกัดทั้งเรื่องอายุและความสัมพันธ์ เช่น เป็นคู่แต่งงาน ลูก คนในตระกูล เพื่อนสนิท นายจ้าง ลูกจ้าง หุ้นส่วนธุรกิจ รวมถึงเป็นวัด มูลนิธิ หรือองค์กรการกุศลก็ได้เช่นกัน โดยคนที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ต้องรับรู้และแจ้งความยินยอมด้วย

ผู้รับประโยชน์ 6 ลำดับ

ถ้าเราไม่ระบุว่าผู้รับผลประโยชน์เป็นใคร ค่าสินไหมจะตกไปอยู่ในกองมรดก ซึ่งผู้ที่เป็นทายาทโดยธรรมลำดับแรกจะมีสิทธิ์รับมรดกก่อน ทายาทโดยธรรมมีด้วยกัน 6 ลำดับ ดังต่อไปนี้

  1. สามี-ภรรยาตามกฎหมาย ลูกตามกฎหมาย ลูกนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว หรือลูกบุญธรรม
  2. พ่อแม่
  3. พี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน
  4. พี่น้องต่างพ่อหรือต่างแม่
  5. ปู่ ย่า ตา ยาย
  6. ลุง ป้า น้า อา

ผู้รับประโยชน์ ไม่ใช่ญาติได้ไหม?

ในทางกฎหมาย เราสามารถระบุผู้รับผลประโยชน์ประกันชีวิตเป็นคนที่ไม่ใช่ญาติได้ เพียงแนบเอกสารที่แสดงความสัมพันธ์ด้วย เช่น เอกสารกู้ร่วม หลักฐานการทำธุรกิจร่วมกัน และพึงระวังผลกระทบดังนี้

  • การฆ่าเอาประกัน
  • การฟ้องร้องจากญาติ
  • บริษัทประกันไม่อนุมัติ

Who can be named as a life insurance beneficiary_02.png

ผู้รับผลประโยชน์ ต้องอายุเท่าไหร่?

ผู้รับผลประโยชน์สามารถอายุเท่าไหร่ก็ได้ แต่หากผู้รับผลประโยชน์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์) จะไม่สามารถรับเงินผลประโยชน์ได้โดยตรงและมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากขึ้น

ผู้รับผลประโยชน์ที่บรรลุนิติภาวะ

เมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิต สามารถดำเนินการรับเงินประกันได้เองโดยตรวจสอบข้อมูลผู้รับผลประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันชีวิต และเตรียมเอกสารต่อไปนี้ให้กับบริษัทประกันภายใน 14 วัน

  • แบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมของบริษัทประกันนั้น
  • สำเนาใบมรณบัตร
  • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ทำประกันที่มีการจำหน่าย "ตาย"
  • สำเนาบัตรประชาชน: ของผู้เสียชีวิต และของผู้รับผลประโยชน์
  • รายงานทางการแพทย์ ใบชันสูตรพลิกศพที่แจ้งสาเหตุการเสียชีวิต
  • กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือไม่ทราบสาเหตุ: สำเนาใบแจ้งความ/สำเนาบันทึกประจำวัน
  • เอกสารอื่น ๆ ตามที่บริษัทประกันขอเพิ่ม

ผู้รับผลประโยชน์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

รับเงินประกันโดยตรงไม่ได้ ต้องแต่งตั้งผู้ปกครองขึ้นมาเพื่อจัดการมรดกและมีหนังสือแสดงเจตนาแต่งตั้งผู้ดูแลเงิน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ใช้เวลานาน หรืออาจต้องขึ้นศาล

เปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์ภายหลังได้ไหม?

เช็คก่อนเปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์

ผู้ทำประกันสามารถเปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์ประกันชีวิตภายหลังได้ เพียงติดต่อตัวแทนหรือบริษัทประกันเพื่อแจ้งความประสงค์และเช็กว่ามีเงื่อนไขเพิ่มเติมหรือไม่

อยากเปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์ทีหลังทำอย่างไร

  1. กรอกแบบฟอร์มคำขอเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ให้ครบถ้วน
  2. ตรวจสอบรายละเอียดให้ถูกต้องก่อนยื่นบริษัทประกัน โดยเฉพาะตัวสะกดและการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลผู้รับผลประโยชน์
  3. หากผู้รับผลประโยชน์ไม่ใช่พ่อ แม่ สามี ภรรยา หรือลูก อาจใช้หลักฐานพิสูจน์ความสัมพันธ์ด้วย

ทั้งนี้อย่าลืมศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขทั้งหมดก่อนตัดสินใจทำประกัน เนื่องจากประกันแต่ละชนิดอาจจะมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป

Who can be named as a life insurance beneficiary_03.png

วางแผนจัดการการจ่ายเบี้ยประกัน ด้วย MAKE by KBank

เพื่อให้เราส่งต่อความมั่นคงทางการเงินให้กับคนที่เราแคร์ได้อย่างราบรื่นในเวลาที่เราจากไป การวางแผนการเงินล่วงหน้านั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และแอป MAKE by KBank เป็นเครื่องมือหนึ่งที่มีหลากหลายฟังก์ชันที่น่าสนใจ ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้ง่ายขึ้น

1. แยกเงินสำหรับจ่ายประกัน ด้วย Cloud Pocket

ในแอป MAKE by KBank เราสามารถใช้กระเป๋าตังค์ย่อยที่เรียกว่า Cloud Pocket สำหรับเก็บเงินค่าประกันโดยเฉพาะได้ โดยสามารถ:

  • แยกเงินเก็บออกจากเงินใช้ ลดปัญหาเงินไม่พอส่งประกันเมื่อถึงกำหนด
  • กำหนดเป้าหมายการออมได้ว่าต้องเก็บเงินเท่าไหร่ และตอนนี้เก็บได้เท่าไหร่แล้ว

2. วางแผนเก็บเงินให้ลูกด้วย Shared Cloud Pocket

หากผู้รับผลประโยชน์ประกันชีวิตเป็นลูกของเรา ลองเพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้เขาด้วยมรดกที่เราและคู่ชีวิตทยอยสะสมให้ ในแอป MAKE by KBank สามารถใช้ฟังก์ชัน Shared Cloud Pocket ร่วมเก็บเงินกับคู่ชีวิตได้

  • เป็นเหมือนบัญชีร่วมที่ช่วยกันฝากเงินได้สะดวก
  • เช็กความเคลื่อนไหวของกระเป๋าเงินได้ตลอด ไม่ต้องส่งสลิปไปมา
  • ตั้งเป้าหมายร่วมกันและปรับแผนการออมได้ง่าย ๆ

3. เลือกซื้อประกันออนไลน์ง่าย ๆ บน MAKE by KBank

นอกจากช่วยบริหารเงินแล้ว MAKE by KBank ยังให้คุณสามารถเลือกและสมัครประกันชีวิตได้โดยตรงผ่านแอป พร้อมความสะดวกอุ่นใจหลายประการ

  • ย่อยข้อมูลให้เข้าใจง่าย ช่วยในการตัดสินใจซื้อประกัน
  • มีตัวเลือกประกันที่ตอบโจทย์มากมาย ทั้งเน้นความคุ้มครองและเน้นลดหย่อนภาษี
  • มีประกันสุขภาพแบบเจาะจงและแบบครอบคลุม พร้อมค่าเบี้ยที่สมเหตุสมผลและจ่ายไหว

เตรียมพร้อมไว้ อุ่นใจกว่า ซื้อประกันผ่าน MAKE By KBank จบในแอปเดียว

Banner SEO.png

กลับไปหน้าแรก

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ