

อยากเลี้ยงแมว 1 ตัว มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่? เป็นคำถามที่หลายคนแอบคิดก่อนจะสมัครเป็นทาสแมวเต็มตัว ทั้งค่าอาหาร ค่าทราย ค่าวัคซีน ยันของเล่น มีอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนจะพาเจ้านายเข้าบ้าน มาคำนวณก่อนเพื่อเตรียมตัวเป็นทาสแมวที่ดีกัน!
เราสามารถประเมินได้คร่าว ๆ ว่า ค่าใช้จ่ายต่อเดือนในการเลี้ยงแมว 1 ตัว จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 บาท
ซึ่งจะมากหรือน้อยกว่านั้นก็ย่อมขึ้นอยู่กับสไตล์การเลี้ยงด้วยเช่นกัน โดยจะแบ่งออกระบบปิด ระบบกึ่งปิด และระบบเปิด แต่ละสไตล์ก็มีข้อดี ข้อเสีย และค่าใช้จ่ายแฝงที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ความปลอดภัย หรือค่ารักษาพยาบาล
เลี้ยงแมวระบบปิด คือ การเลี้ยงแมวอยู่ในบ้านตลอดเวลา ไม่เสี่ยงต่อโรค อุบัติเหตุ หรือการหลงหายจนกลับบ้านไม่ถูก ซึ่งถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย ดูแลง่าย แต่ก็ต้องลงทุนกับของภายในบ้าน เช่น ทรายแมว ที่ลับเล็บ ของเล่น และคอนโดแมว รวมถึงต้องใส่ใจเรื่องความสะอาด และมีเวลาเล่นกับน้องเหมียวให้พอด้วย
ระบบกึ่งปิด คือ การเลี้ยงแมวแบบมีพื้นที่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน โดยเจ้าของหลายคนจะเลือกปล่อยน้องเหมียวให้วิ่งเล่นอยู่พื้นที่ที่ควบคุมได้ เช่น สวน หรือระเบียง โดยกั้นขอบเขตเพื่อความปลอดภัย การเลี้ยงแมวแบบนี้จึงมาพร้อมค่าใช้จ่ายในการดัดแปลงบ้าน เช่น การติดกรง ตาข่าย หรือแผงกั้น เพื่อให้มั่นใจว่าน้องเหมียวปลอดภัยและไม่หายไปจากบ้าน
เป็นการปล่อยให้น้องแมวมีอิสระ สามารถออกไปสำรวจโลกกว้างได้แบบสบาย ๆ แต่ก็มีความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ โรคติดต่อ หรือการทะเลาะกับแมวตัวอื่น เจ้าของจึงควรเตรียมงบสำหรับเหตุฉุกเฉินไว้ หรือเลือกทำประกันสัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษา
เราลองมาคำนวณดูกันว่า ค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการเลี้ยงน้องแมวสักตัวมีอะไรบ้าง
มีน้องเหมียวก็เหมือนมีลูกเลย โดยเราต้องเตรียมอุปกรณ์เบื้องต้น เช่น ชามอาหาร, ที่นอนอุ่นๆ, ที่ข่วนเล็บ, ของเล่น รวมไปถึงกระบะทรายให้น้องใช้ขับถ่าย
| อุปกรณ์ | ราคา (บาท) | รายละเอียด | | ----- | ----- | ----- | | ชามอาหารและน้ำ | 100–300 | เลือกวัสดุปลอดภัย เช่น สเตนเลสหรือเซรามิก ป้องกันการสะสมเชื้อโรค | | ที่นอนแมว | 200–500 | ให้ความอบอุ่นและเป็นพื้นที่ส่วนตัว อาจเลือกแบบเต็นท์หรือโดมแมว | | ที่ข่วนเล็บ | 150–800 | ป้องกันแมวข่วนเฟอร์นิเจอร์ เลือกได้ทั้งแบบแผ่น, เสา, หรือคอนโดแมว ขึ้นอยู่กับพื้นที่บ้าน | | กระบะทราย | 150–700 | มีทั้งแบบเปิดและแบบมีฝาปิด โดยควรซื้อช้อนตักทรายเพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดด้วย | | ของเล่นแมว | 50–300 | ไม้ล่อแมว, ลูกบอล, ของเล่นใส่แคทนิป กระตุ้นการออกกำลังกายและลดความเครียด |
รวมค่าใช้จ่ายเบื้องต้นประมาณ 650–2,600 บาท ขึ้นอยู่กับประเภท วัสดุ และแบรนด์ของอุปกรณ์ที่เลือก
เมื่อเราเป็นทาสแมว นอกจากค่าใช้จ่ายเบื้องต้นแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน เพื่อดูแลสุขภาพและความสะอาดของน้องแมวให้ดีที่สุด โดยหลัก ๆ แล้วได้แก่ ค่าอาหารและค่าทรายแมว โดยเฉพาะกับการเลี้ยงแมวแบบระบบปิด
| ค่าอาหารแมว | 500–1,500 | รวมอาหารเม็ดและอาหารเปียก เลือกสูตรที่เหมาะกับวัยและสุขภาพ เช่น สำหรับแมวเด็ก, แมวโต, หรือแมวพันธุ์ | | :---- | :---- | :---- | | ค่าทรายแมว | 300–500 | เปลี่ยนทรายทุกเดือนเพื่อสุขอนามัยที่ดี ควรเลือกทรายที่ดูดซับดีและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ |
รวมค่าใช้จ่ายรายเดือนประมาณ 800–2,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารและทรายที่เลือก
การดูแลสุขภาพแมวเป็นเรื่องสำคัญที่ทาสแมวไม่ควรมองข้าม เพื่อป้องกันโรคและรักษาคุณภาพชีวิตของน้องแมว โดยควรใส่ใจในเรื่องต่อไปนี้:
| วัคซีน | 500–1,000 (ต่อปี) | | :---- | :---- | | ตรวจสุขภาพประจำปี | 300–1,000 (ต่อครั้ง) | | การทำหมัน | 1,500–3,000 | | ยาป้องกันเห็บ หมัด และพยาธิ | 100–300 (ต่อเดือน) |
สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับดูแลสุขภาพแมวรวมทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 2,500–5,500 บาท ขึ้นอยู่กับบริการที่เลือก
เหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อเจ้านายตัวน้อยเจ็บป่วยหรือมีอุบัติเหตุ อาจจะต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน การมีเงินสำรองไว้จะช่วยให้คุณสามารถดูแลน้องแมวได้ทันทีหากมีปัญหาสุขภาพเกิดขึ้น
โรคและอาการฉุกเฉินที่พบบ่อยในแมว เช่น
โรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดแมว ไอ จาม หรือหายใจลำบาก
อาหารเป็นพิษหรือท้องเสียเฉียบพลัน ที่อาจทำให้น้องแมวขาดน้ำและต้องได้รับการรักษา
อุบัติเหตุ เช่น ตกจากที่สูง ถูกรถชน หรือกัดกับแมวตัวอื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดบาดแผลหรือกระดูกหัก
ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น การอุดตันทางเดินปัสสาวะในแมว ซึ่งเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องรักษาทันที
การติดเชื้อหรือโรคเฉียบพลันอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการตรวจและรักษาโดยสัตวแพทย์
| ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน | 1,000–10,000 | ขึ้นอยู่กับอาการและวิธีการรักษา เช่น ฉีดยา, ผ่าตัด หรือพักรักษาในโรงพยาบาลสัตว์ | | :---- | :---- | :---- |
การมีเงินสำรองสำหรับดูแลรักษาพยาบาลฉุกเฉินจะช่วยลดความกังวล โดยแนะนำให้เก็บเงินสำรองไว้ประมาณ 5,000–10,000 บาท ซึ่งเพียงพอสำหรับรับมือกับโรคหรืออุบัติเหตุทั่วไปที่พบบ่อย
นอกจากค่าใช้จ่ายหลักแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงที่ทาสแมวต้องเตรียมพร้อม เช่น
ค่าเดินทางไปคลินิกสัตวแพทย์: ประมาณ 50–200 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและวิธีการเดินทาง
ค่าทำความสะอาด อาบน้ำ และตัดขน: โดยทั่วไปอยู่ในช่วง 300–1,000 บาท ขึ้นกับประเภทแมวและบริการที่เลือก
รวมค่าใช้จ่ายแฝงโดยประมาณต่อครั้งอยู่ที่ 350–1,200 บาท ซึ่งขึ้นกับลักษณะการดูแลและบริการที่เลือกใช้
สำหรับบ้านที่เลี้ยงแมวขนยาว เช่น เปอร์เซีย, เมนคูน, และแมวฮิมาลายัน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในเรื่องการอาบน้ำและตัดแต่งขน โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 800–2,500 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดแมวและระดับความยากง่ายของการดูแล
นอกจากอุปกรณ์พื้นฐานแล้ว ก็ยังมีของเล่นแอดวานซ์ กระดิ่ง หรือของเสริมฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ทาสแมวอดใจไม่ซื้อมาสปอยล์แมวไม่ได้ เช่น
รวมค่าฟังก์ชั่นเสริมประมาณ 200–1,500 บาท ขึ้นอยู่กับความชอบและความจำเป็นของแมว โดยถ้าเป็นอุปกรณ์ฟังก์ชั่นสูงหรือแบรนด์พรีเมียม ค่าใช้จ่ายก็สามารถสูงกว่านี้ได้มาก
รวมค่าใช้จ่ายต่อปีอยู่ที่ 15,000–30,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับการเลือกสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่เราเลือก
โดยสรุปได้เลยว่า การเลี้ยงแมวมีค่าใช้จ่ายที่หลากหลาย แต่หากเตรียมตัวให้พร้อมและรู้จักบริหารจัดการค่าใช้จ่าย จะช่วยให้คุณสามารถดูแลน้องแมวได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน
มาดู 3 เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณจัดการค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงแมวได้ง่ายขึ้น
จัดงบรายเดือนให้เป๊ะ
แบ่งงบสำหรับค่าอาหาร ทรายแมว และอื่น ๆ ที่ต้องจ่ายรายเดือนเอาไว้ก่อน กันเงินส่วนนี้ไว้ในน้องแมวโดยเฉพาะเผื่อไม่ให้รบกวนเงินค่าใช้จ่ายส่วนอื่น
ติดตามทุกค่าใช้จ่าย พร้อมเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน
บันทึกฉีดวัคซีน ค่ายา รวมไปถึงค่าใช้จ่ายแฝงต่าง ๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมการใช้จ่ายที่ชัดเจนและวางแผนได้ดีขึ้น และไม่ลืมกันงบสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น น้องแมวเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ
มีโปรต้องรีบคว้า
การซื้ออาหารหรือทรายแมวแพ็กใหญ่หรือแบบยกลังในช่วงโปรโมชั่น ช่วยลดต้นทุนในระยะยาวได้
มาวางแผนเก็บเงินบน Cloud Pocket ในแอป MAKE by KBank กำหนดงบและติดตามค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของน้องเหมียวแบบไม่มีตกหล่น
ใครอยากเลี้ยงแมวให้กินอิ่ม ขนนิ่ม สุขภาพดี อย่าลืมวางแผนการเงินเพื่อเราให้พร้อมดูแลน้องได้ดีที่สุด ที่สำคัญ อย่าลืมแบ่งเวลาให้น้องเหมียวเพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดี ให้น้องอยู่ฮีลใจและเติบโตกับเราไปนาน ๆ