เริ่มต้นเส้นทางรวยไปกับเทคนิค 6 Jars | MAKE by KBank

เริ่มต้นเส้นทางรวยไปกับเทคนิค 6 Jars

Banner ไม่ว่าใครต่างก็อยากรวย มีเงินมีทองใช้ ดังนั้นไม่ใช่แค่การทำงานหาเงินเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วจะได้ผลลัพธ์เงินเก็บตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ต้องรู้จัก เคล็ดลับจัดการเงิน ของตนเองให้งอกเงยไม่ว่าจะในรูปของการต่อยอดทรัพย์สิน ต่อยอดความรู้ และสร้างความสุขให้กับชีวิตของตนเอง จึงนำมาซึ่งวิธีเก็บเงินแบบ 6 Jars ซึ่งหลายคนคุ้นคงพอได้ยินกันมาบ้าง เอาเป็นว่าใครสนใจอยากมีเงินใช้แบบไม่ต้องเหนื่อยทั้งชีวิต มาเริ่มจัดการเงินง่าย ๆ ผ่านหลักนี้กันเลย Image2

เทคนิค 6 Jars คืออะไร มีที่มาอย่างไร

เทคนิค 6 Jars คือ วิธีเก็บเงินรูปแบบหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ตามทฤษฎีที่เรียกว่าของขวดโหลหรือโอ่ง 6 ใบ แบ่งแยกเงินเก็บของคุณเป็นสัดส่วนต่าง ๆ ที่เหมาะสมต่อการใช้ชีวิต แนวคิดนี้ริเริ่มโดย T.Harv Eker นักวิทยาการ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ นักเขียนด้านการเงิน รวมถึงยังเป็นนักธุรกิจชาวแคนาดา โดยหนังสือยอดฮิตเกี่ยวกับการเงินที่คนไทยคุ้นเคยดี เช่น “ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน” เหตุผลสำคัญที่ทำให้เคล็ดลับจัดการเงินแบบขวดโหล 6 ใบของเขามีคนทำตามจำนวนมากมาจากในอดีตเขาเคยเป็นบุคคลล้มละลาย แต่ด้วยหลักดังกล่าวเพียงเวลาไม่กี่ปีก็สามารถกลายเป็นเศรษฐีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นใครที่อยากรวย (ซึ่งเป้าหมายความรวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน) ลองมาเริ่มจัดการเงินง่าย ๆ ตามหลักนี้กันดีกว่า

วิธีเก็บเงินตามหลักทฤษฎี 6 Jars

โหลใบที่ 1 สำหรับการใช้จ่ายเงินที่จำเป็น 55% ในชีวิตของคนเรามีเรื่องราวให้ต้องใช้เงินมากมาย ดังนั้นตามหลัก 6 Jars โหลใบแรกที่คุณต้องจัดสรรและวางแผนให้ดีคือ โหลสำหรับเก็บเงินเพื่อใช้จ่ายในแต่ละเดือน โดยมีสัดส่วนสูงถึง 55% เลยทีเดียว อธิบายแบบเข้าใจง่ายมันก็คือ การนำเอาเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายเพื่อชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง พยายามอย่างไปนำเงินส่วนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ตรงไหนประหยัดได้ก็เซฟเอาไว้แล้วเก็บใส่โหลใบอื่นต่อไป

โหลใบที่ 2 สำหรับสร้างอิสรภาพทางการเงินให้ตนเอง 10% บางคนจะเรียกเป็นโหลแห่งความมั่งคั่ง หรือโหลสำหรับใช้เงินต่อเงิน เงินสร้างทรัพย์สินอะไรก็ตามสะดวก เคล็ดลับจัดการเงินในโหลใบนี้คือ เงินทุกบาทที่คุณใส่เข้าไปจะต้องสามารถต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง โดยเฉพาะรายได้แบบ Passive Income เช่น นำไปลงทุนหุ้น กองทุน คริปโต ทองคำ การซื้อบรรดาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เป็นต้น

โหลใบที่ 3 สำหรับเงินเก็บสำรองแบบระยะยาว 10% วิธีเก็บเงินของโหลใบนี้จะเน้นไปที่เรื่องความมั่นคงในชีวิต ซึ่งคุณควรต้องมีการแบ่งสำหรับเก็บออมระยะยาวเผื่ออนาคตข้างหน้าเอาไว้ด้วย ไม่ใช่แค่การใช้จ่ายในแต่ละวัน หรือคิดแต่จะลงทุน เพราะอย่าลืมว่าความไม่แน่นอนล้วนเป็นอนิจจังของโลกใบนี้ ลงทุนไม่ใช่มีแต่ได้กำไร โอกาสขาดทุนย่อมเป็นได้เช่นกัน ซึ่งเงินสำรองเพื่อเอาไว้ใช้ในอนาคตอาจแบ่งได้หลายรูปแบบ เช่น การเก็บเงินเข้าบัญชีฝากประจำ, บัญชีสำรองโดยไม่มีการถอนออกมาใช้หากไม่จำเป็นจริง ๆ หรือจะเน้นไปที่กลุ่มของการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์, การซื้อประกันสุขภาพในกรณีเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือแม้แต่เก็บไว้ตามเป้าหมายอื่น ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ซึ่งอาจเกิดหรือไม่ก็ได้) เช่น เก็บไว้ซื้อบ้านสักหลังเป็นของตนเอง, ไว้จ่ายค่าเทอมลูกสำหรับส่งไปเรียนต่างประเทศ เป็นต้น

โหลใบที่ 4 สำหรับให้รางวัลชีวิตของตนเอง 10% หลัก 6 Jars ไม่ใช่แค่เก็บเงินแบบเคร่งเครียดเพื่อทำตามเป้าหมาย หรือเพื่ออนาคตทั้งหมด แต่จะมีโหลนี้ที่เอาไว้สร้างความสุขให้กับตนเอง คุณชอบทำอะไร สิ่งไหนคือรอยยิ้มเอาเงินส่วนแบ่งทั้ง 10% ของโหลนี้ออกไปใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว, การกินมื้อหรู, การซื้อของสะสม ฯลฯ แต่เน้นย้ำว่ามูลค่าที่ใช้ต้องไม่เกิน 10% ต่อเดือนหรือต่อครั้งที่คุณเก็บเงิน

โหลใบที่ 5 สำหรับการศึกษาและพัฒนาตนเอง 10% ความรู้บนโลกใบนี้ไม่มีวันสิ้นสุด ยิ่งคุณหาใส่ตัวได้มากเท่าไหร่ย่อมเป็นประโยชน์เสมอ เคล็ดลับจัดการเงินด้วยวิธีนี้จึงมีการแบ่งโหลเพื่อให้คุณนำเงินไปใช้ต่อยอดความรู้ ร่ำรวยทางปัญญา เช่น ซื้อคอร์สเรียนต่าง ๆ, ซื้อหนังสือน่าอ่านเดือนละ 1-2 เล่ม เป็นต้นเมื่อสมองดี ปัญหาเกิด ความรู้เยอะ คราวนี้ก็สามารถหาเงินหาทองได้มากขึ้นกว่าเดิม เก็บได้เยอะไปอีกหลายเท่า

โหลใบที่ 6 สำหรับการให้ผู้อื่น 5% โหลใบสุดท้ายอยากให้ทุกคนรู้จักแบ่งปันสิ่งที่ตนเองมีให้กับผู้อื่นที่ยังขาดแคลนบ้าง อาจเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่เชื่อว่าจะช่วยให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคให้กับมูลนิธิ การทำบุญ หรือแม้แต่การให้เงิน ให้ของขวัญคนสำคัญในครอบครัว ก็นับเป็นการตอบแทนที่ช่วยให้รู้สึกสุขใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน

จากหลัก 6 Jars ที่กล่าวมาทั้งหมด ถือเป็นวิธีเก็บเงินที่ทุกคนทำได้ และถ้าหากสนใจเริ่มจัดการเงินง่าย ๆ ให้กับตนเอง แต่ไม่รู้จะแบ่งโหลเงินยังไงดี แอป MAKE by KBank พร้อมเป็นผู้ช่วยด้วยฟีเจอร์อย่าง Cloud Pocket ที่คุณสามารถแบ่งกระเป๋าเงินออกได้ไม่จำกัด โหลแต่ละใบอยากให้มีเงินเก็บสำหรับทำอะไรบ้างใช้แอปนี้เป็นอีกเคล็ดลับจัดการเงินของตนเองได้อย่างง่ายดาย ความรวยหรืออย่างน้อยก็ไม่มีหนี้สินคือสิ่งที่จะพบเจอได้อย่างแน่นอน

กลับไปหน้าแรก